วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับหมูแดดเดียว


ร้านอาหารอีสาน กับการทำเนื้อหมูแดดเดียว แดดแรงๆ อย่างเมืองไทยแถบภาคอีสานอย่างบ้านเรา เหมาะจะทำอาหารที่ใช้แสงแดดเป็นอย่างมาก เพราะแสงแดดทางแถบพื้นที่อีสานบ้านเรานั้นช่างแสนร้อน ถ้านำเนื้อหมูไปตากแดดแค่เพียงแดดเดียวก็น่าจะสามารถนำมาประกอบอาหารได้เลย ซึ่งเนื้อหมูแดดเดียวนั้นมีวิธีขั้นตอนในการทำง่ายมาก เพียงแค่บ้านท่านมีเนื้อหมูติดตู้เย็น แล้วอยากนำมาแปลรูปให้อาหารสามารถอยู่ได้นานขึ้น วันนี้เรามีเมนูหมูแดดเดียวมาแนะนำให้ลองฝึกหัดทำทานกัน


ขั้นตอนในการทำหมูแดดเดียวฉบับ ร้านอาหารอีสาน สไตล์อีสานบ้านเรา โดยอันดับแรกต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับหมักเนื้อหมูกันเสียก่อน ประกอบไปด้วยเนื้อหมู ข้าวเหนียม กระเทียมโขลกละเอียด เกลือป่น น้ำตาลทราย น้ำมันหอย และเมื่อเราจัดเตรียมวัตถุดิบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเราก็มาเริ่มลงมือทำกันได้เลย เริ่มจากนำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาดแล้วหั่นให้เป็นชิ้นๆ จากนั้นคลุกเนื้อกับกระเทียมโขลก เกลือป่น น้ำตาลทราย และน้ำมันหอยจาเข้ากัน สำหรับในขั้นตอนนี้หากใครที่ต้องการให้เนื้อแดดเดียวที่ได้ออกมามีรสจัด ให้เติมเกลือป่น และน้ำตาลในปริมาณที่มากหน่อย หลังจากผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันเรียบร้อยแล้ว หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงนำข้าวเหนียวมาคลุกกับเนื้อหมูก่อนนำไปตากแดด


หลักการตากเนื้อในการถนอมอาหารของ ร้านอาหารอีสาน ก็คือ ตากจนเนื้อแห้ง เนื่องจากหากเนื้อที่นำไปตากแห้งไม่มากพอ เมื่อนำมาเก็บไว้จะทำให้เนื้อขึ้นราได้ และเมื่อเนื้อแห้งจนเป็นที่ต้องการเรียบร้อยแล้วก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้เลย หมูแดดเดียวทอดกรอบๆ นำมาทานกับข้าวเหนียวนึ่งสุกร้อนๆ เป็นอะไรที่ทานเข้ากันเป็นอย่างมาก





วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทำน้ำพริกปลาทูง่ายๆ กับ ร้านอาหารอีสาน


ร้านอาหารอีสาน ขอแนะนำวิธีในการทำเมนูน้ำพริกไทยๆ อย่าง "น้ำพริกปลาทู" มาฝากกัน ซึ่งน้ำพริกปลาทู้นั้นเป็นน้ำพริกที่ชาวบ้านในสมัยก่อนได้ดัดแปลง นำเอาปลาทูมาทำน้ำพริกเพื่อความไม่จำเจ และได้กลายมาเป็นเมนูน้ำพริกที่อร่อยแล้วบอกปากต่อปาก การทานน้ำพริกคู่กับผักสดนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพ ยังช่วยในเรื่องของระบบขับของร่างกายอีกด้วย การทานผักสดนั้นจะได้วิตามินนานาชนิดอย่างครบถ้วนมากกว่าการทานผักที่นำไปผ่านความร้อน เนื่องจากวิตามินนั้นสามารถสลายตัวในความร้อนได้เป็นอย่างดี


ขั้นตอนในการทำน้ำพริกปลาทู โดยอันดับแรกนั้นเราต้องมีวัตถุดิบหลักอย่างปลาทูเสียก่อน ร้านอาหารอีสาน ได้เลือกใช้ปลาทูที่สดใหม่ เนื่องจากหากใช้ปลาทูที่เก็บค้างคืนไว้หลายวันแล้ว อาจจะทำให้น้ำพริกที่เราทำเสร็จมีกลิ่นเหม็นได้ ที่สำคัญเราอาจเก็บน้ำพริกไว้ทานคราวหลังได้ไม่นานอีกด้วย และเมื่อเราเลือกซื้อปลาทูได้แล้ว ต่อมาก็มาถึงขั้นตอนของการย่างปลาทู ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ปลาทูมีกลิ่นหอมมากกว่าการนำไปทอด และเมื่อย่างปลาทูจนเหลืองได้ที่แล้วก็ทำการแกะเอาเนื้อปลาทูเตรียมไว้


เมื่อเตรียมเนื้อปลาทูเสร็จแล้ว ต่อมาก็ทำการคั่วพริกสด หอม และกระเทียม แล้วนำไปโขลกรวมกับเนื้อปลาทูที่เตรียมไว้ พร้อมทั้งปรุงรสด้วยมะนาว และน้ำปลาให้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำพริกปลาทูอร่อยๆ ไว้ทานกับผักสด



วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อิ่มอร่อยกับ ร้านอาหารอีสาน ลาบหมูทอด

อิ่มอร่อยไปกับอาหารอีสาน จาก ร้านอาหารอีสาน TheHome อุบล "ลาบหมูทอด" ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่สามารถทำทานได้เองที่บ้านง่ายๆ ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน ซึ่งวิธีในการทำลาบหมูทอดได้แก่ ขั้นแรกให้นำหมูมาสับให้ละเอียดแล้วนำไปลวกในน้ำเดือดจัดจนสุก จากนั้นเมื่อหมูสุกแล้วนำมาคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงรสตามใจชอบอย่างน้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว ให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม แล้วเติมแป้งผสมคลุกเคล้าเข้าไปเพื่อให้เนื้อหมูที่สุกแล้วจับตัวกันเป็นก้อน นำหมูมาปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก เนื่องจากหากปั้นเนื้อหมูให้มีขนาดใหญ่มากจนเกินไป เนื้อหมูด้านนอกจะไหม้ก่อนที่เนื้อหมูด้านในจะสุก จากนั้นตั้งกะทะโดยใช้น้ำมันปริมาณที่มาก รอจนกว่าน้ำมันจะร้อนจัดจึงใส่หมูที่ปั้นไว้ลงไป เมื่อเนื้อหมูเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลือง ให้ตักขึ้นพักไว้ในตระแกงเพื่อให้สะเด็ดน้ำมัน เพียงเท่านี้ก็จะได้หมูทอดอร่อยๆ ทานหนึ่งจาน

ร้านอาหารอีสาน มีเคล็ดลับดีๆ ในการทานลาบหมูทอดให้อร่อยมาฝากกัน นั่นก็คือการทานร่วมกับผักสด เนื่องจากลาบหมูทอดนั้นเป็นเมนูอาหารประเภทของคาว ที่สามารถทานร่วมกันกับผักสดนานาชนิดได้เข้ากันเป็นอย่างดี และนอกจากผักสดจะเป็นเครื่องเคียงเสริมสำหรับใช้ทานร่วมกับลาบหมูทอดแล้ว ผักสดยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย สามารถช่วยทำให้ระบบขับถ่ายภายในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ เนื่องจากในผักสดนั้นต่างก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์ในปริมาณที่มาก ทำให้สามารถขับถ่ายได้สะดวก และง่ายขึ้น นอกจากผักสดจะมีเส้นใยช่วยในเรื่องของการขับถ่ายแล้ว แต่ผักสดก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย


วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับเมนูอาหารเจ

ร้านอาหารอีสาน "เดอะโฮมอุบล" เป็นร้านอาหาร ไทย-อีสาน บรรยากาศดี และน่านั่งที่สุดอีกหนึ่งร้านอาหารในจังหวัดอุบล ด้วยบรรยากาศของ ร้านอาหารอีสาน ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ธรรมชาติอีสานบ้านเรา ผสมผสานเข้ากับสไตล์โมเดิร์นที่ทันสมัยได้เข้ากันอย่างลงตัว ทำให้ร้านอาหารในอุบลร้านนี้กลายเป็นร้านอาหารที่น่าค้นหาอยากลองเข้าไปใช้บริการยิ่งนัก นอกจากความสวยงามของบรรยากาศ ร้านอาหารอีสาน ร้านนี้ที่เป็นตัวช่วยเพิ่มอรรถรสให้การทานอาหารอร่อยมากยิ่งขึ้นแล้ว ร้านอาหารเดอะโฮมยังมีวงดนตรีสดที่คอยบรรเลงขับกล่อมเสียงเพลงให้ท่านได้ฟังตลอดยามค่ำคืนของการทานอาหารที่ร้านอีกด้วย ที่สำคัญนอกจากจะมีเสียงเพลงคอยบรรเลงขับกล่อมให้ได้ฟังแล้ว ร้านอาหารในอุบลร้านนี้ยังมีการแสดงพื้นบ้านอีสานอย่างโปงลางให้ท่านได้รับชมกันทุกๆ คืนวันศุกร์อีกด้วย

ร้านอาหารอีสาน เดอะโฮมอุบลเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น. ทั้งยังมีห้องจัดเลี้ยง และห้องคาราโอเกะไว้สำหรับบริการแก่ลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการทานอาหาร หรือต้องการผ่อนคลายจากความตึงเครียดในระหว่างทำงานอีกด้วย

วันนี้ ร้านอาหารอีสาน เดอะโฮมอุบลมีเคล็ดลับในการกินเจมาฝากมือใหม่ที่พึ่งเริ่มหัดทาน เมนูอาหารเจ ให้ได้ทราบกัน โดยข้อห้ามสำหรับนักทานเจที่ต้องปฏิบัติให้ได้นั้นมีอยู่มากมายหลายข้อ แต่มีข้อห้ามที่ต้องปฏิบัติให้ได้อย่างเคร่งครัดเลยก็คือ การงดเว้นจากการทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด, งดทานนม หรือเนยที่ประกอบขึ้นจากสัตว์, งดทานอาหารรสจัดทุกชนิดทั้งเปรี้ยว หวาน เผ็ด และเค็ม แต่ไม่ได้หมายความว่าห้ามทานอาหารที่มีรสเผ็ด คือสามารถทานอาหารที่มีรสเผ็ดได้แต่ต้องไม่จัดจ้าน, งดทานผักที่มีกลิ่นฉุนอย่างกระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบ, ที่สำคัญงดใช้จาน หรือชามทานอาหารร่วมกับผู้ที่ไม่ได้ทานอาหารเจ เนื่องจากอาจจะมีกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ติดมากับจานชามที่ใช้ร่วมกันได้




วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

ลาบเต้าหู้เจ จากร้านอาหารอีสาน TheHome

เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ ใครหลายคนอาจจะกังวลว่าจะมีอาหารแนวอีสานที่เป็นเมนูอาหารเจบ้างไหม วันนี้ ร้านอาหารอีสาน TheHome ขอนำเสนอเมนูอาหารเจ"ลาบเต้าหู้เจ" ที่ได้นำเต้าหู้ถั่วเหลืองมาประยุกต์ทำเป็นเมนูอาหารเจที่มีรสชาติแนวอาหารอีสานอย่างลาบ

ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูอาหารประเภทลาบแล้ว ทุกคนคงจะนึกถึงอาหารที่มีรสชาติแซ่บจัดจ้านถึงใจ ทั้งยังต้องเป็นเมนูอาหารที่มีกลิ่นหอมของเครื่องเคียงสมุนไพรอย่างใบะมะกรูดด้วย อาหารเจอย่างลาบเต้าหู้เจก็เช่นเดียวกัน ที่ทาง ร้านอาหารอีสาน TheHome ได้นำวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารเจมาดัดแปลงผสมร่วมกับวัตถุดิบเครื่องเคียงสำหรับทำอาหารประเภทลาบ ทำให้เกินเมนูอาหารเจรสชาติอาหารอีสานขึ้นมา ซึ่งวิธีในการทำลาบเต้าหู้เจนั้น มีวิธีในการทำที่แสนจะง่ายดาย โดยอันดับแรกถ้าเป็นลาบอีสานก็จะใช้เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับประกอบอาหาร แต่สำหรับอาหารเจก็จะเลือกใช้เต้าหู้ถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารแทน ต่อมาเมื่อเตรียมวัตถุดิบหลักเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้นำเต้าหู้ถั่วเหลืองมาคลุกเคล้ากับข้าวคั่ว พริกสดซอยละเอียด ผักชี และผงปรุงรสเห็ดหอม เพียงเท่านี้ก็จะได้อาหารเจที่แสนอร่อยทาน

การทานอาหารเจนอกจากจะเป็นการสร้างบุญ ที่ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์แล้ว ยังเป็นการทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เนื่องจากการทานอาหารเจติดต่อกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะช่วยให้ร่างกายสามารถขับสารพิษหรือของเสียออกจากร่างกายได้หมด  

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

แกงคั่วหอยขม กับร้านอาหารอีสาน The Home

"แกงคั่วหอยขม" กับ ร้านอาหารอีสาน The Home อุบล สุดยอด เมนูอาหาร รสเด็ดของชาวอีสานที่นิยมทานกันทั้งในอดีตและปัจจุบัน ด้วยเป็นรสชาติอาหารที่อร่อย กลมกล่อม และเผ็ดจัดจ้านถึงใจ ทั้งยังมีวิธีการทานที่แปลกไม่เหมือนใคร ด้วยเป็นเมนูอาหารที่ต้องใช้ไม้จิ้มฟันจิ้ม เพื่อใช้ในการดึงเนื้อหอยออกมาจากเปลือกเพื่อรับประทาน

หอยขม หรือ หอยจุ๊บ ที่ทาง ร้านอาหารอีสาน นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารนั้น จำเป็นจะต้องตัดก้นหอยออก เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน และจำเป็นจะต้องล้างทำความสะอาดก่อนนำมาประกอบอาหาร มากกว่าปกติเนื่องจากหอยขมนั้นจะอยู่อาศัยบริเวณใต้ผิวน้ำ จึงทำให้ลำตัวหรือเปลือกของหอยมีดินติดอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งวิธีในการทำแกงคั่วหอยขมนั้นก็มีวิธีในการทำที่ง่าย ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน สามารถทำทานที่บ้านได้ง่ายๆ โดยขั้นตอนแรกนั้นนำหอยขมที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วมาต้มให้สุก หากต้มนานมากจนเกินไปจะทำให้เนื้อหอยขมแข็งด้านไม่น่ารับประทาน เนื่องจากต้องนำหอยไปแกงอีกรอบอยู่แล้ว เมื่อหอยขมสุกแล้วตักนำมาพักไว้ในน้ำเย็น จากนั้นทำการเตรียมเครื่องแกง โดยนำน้ำพริกแกงคั่วมาผสมกับน้ำกะทิแล้วนำขึ้นตั้งไฟ ไม่ต้องรอให้กะทิแตกมันแค่ให้เดือดพอ แล้วทิ้งหอยขมที่ต้มสุกลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บรอให้เดือด ใส่ใบชะพลูหั่น พริกขี้หนูสด และใบมะกรูดซอยเข้าไป เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานได้

อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญของ ร้านอาหารอีสาน ที่ทำให้แกงคั่วหอยขมอร่อย และมันนั้นก็คือ ก่อนจะยกขึ้นจากเตาให้เติมหัวกะทิลงไปอีกรอบ เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงคั่วหอยขมที่อร่อย และมัน กลมกล่อมน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

กุ้งแช่น้ำปลา เมนูเด็ดร้านอาหารอีสาน

ร้านอาหารอีสาน The Home ขอนำเสนอเมนูอาหาร "กุ้งแช่น้ำปลา" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่เหล่าบรรดาร้านอาหารต่างๆ จะขาดไม่ได้ ด้วยความอร่อยและความสดของกุ้งที่ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารยอดนิยมของลูกค้า ที่ไม่ว่าใครเมื่อมาทานอาหารจำเป็นจะต้องสั่งเมนูอาหารจานนี้มาทานทุกครั้ง เมนูอาหารอย่างกุ้งแช่น้ำปลานั้นเมื่อนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ จะได้รสสัมผัสจากเนื้อกุ้งสดๆ ที่หอมหวานน่าลิ้มลอง หรือจะนำมาทานร่วมกับเครื่องดื่มก็อร่อยไปอีกแบบ
หลายคนเมื่อเอ่ยถึงชื่อเมนูอาหารกุ้งแช่น้ำปลาแล้วอาจจะไม่กล้าทาน เนื่องด้วยเป็นเมนูอาหารที่ดิบ แต่สำหรับเมนูอาหารกุ้งแช่น้ำปลาจานนี้ของ ร้านอาหารอีสาน The Home นั้น ทางร้านอาหารในอุบลได้คัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบในการนำมาประกอบอาหารที่สดใหม่ และมีคุณภาพทุกวัน ด้วยกุ้งสดๆ ตัวโตๆ นำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำรสเด็ดของ ร้านอาหารอีสาน The Home ได้เป็นเมนูอาหารที่มีกลิ่นหอมของเครื่องเคียงสมุนไพร ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารที่น่าทานยิ่งนัก ความหอมของเครื่องเคียงสมุนไพรที่ได้จากใบสะระแหน่ พริกสด และกระเทียม ช่างเป็นเครื่องเคียงที่สามารถใช้ดับกลิ่นคาวของอาหารทะเลได้เป็นอย่างดี เคล็ดลับในการทานเมนูอาหารประเภทนี้ให้อร่อยก็คือ การทานกุ้งแช่น้ำปลาร่วมกับมะระที่หั่นเป็นชิ้นๆ ความขมจากมะระผสมรวมกับรสชาติของน้ำยำ ทำให้กลายเป็นรสชาติอาหารที่อร่อยกลมกล่อมอย่างลงตัว
ร้านอาหารอีสาน The Home มีเคล็ดลับในการทำกุ้งแช่น้ำปลาให้อร่อยมาฝาก เริ่มจากการนำวัตถุดิบหลักอย่างกุ้งมาล้างทำความสะอาด และแกะเปลือกออกให้เรียบร้อย จากนั้นผ่าหลังกุ้งแล้วดึงไส้ (สำดำ) ออก นำกุ้งไปแช่ในน้ำเย็นที่ผสมน้ำส้มสายชู แล้วนำมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำธรรมดาอีกรอบหนึ่ง จากนั้นนำกุ้งไป คลุกเคล้ากับน้ำปลาแล้วนำขึ้นจัดเรียงไว้ในจาน เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เมนูอาหารจานนี้อร่อยก็คือน้ำยำ ในส่วนของน้ำยำนั้นจำเป็นต้องทำให้ได้รสชาติที่จัดจ้าน และต้องหอม เนื่องจากวัตถุดิบหลักของเมนูอาหารเป็นอาหารทะเล นำเครื่องเคียงอย่างพริกสด และกระเทียม มาโครกรวมกันแล้วนำไปปรุงรสด้วยน้ำมะนาว นำมาราดบนตัวกุ้งจะได้เมนูกุ้งแช่น้ำปลาที่อร่อยจัดจ้านน่าลิ้มลอง