วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับบะหมี่หมูแดง

ร้านอาหารอีสาน จะพาเพื่อนๆ ไปล้วงความลับในการทำ "บะหมี่หมูแดง" ให้อร่อย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับที่อยากบอกต่อ บะหมี่หมูแดงที่อร่อยเคล็ดลับอยู่ที่การต้มน้ำซุปให้ได้ที่ แล้วจึงค่อยนำมาประกอบอาหาร และวิธีในการต้มน้ำซุปให้อร่อยก็ไม่ยากเลย เพื่อนๆ ลองทำตามวิธีการเคล็ดไม่ลับนี้ดู เริ่มจากนำกระดูกหมูมาลวกในน้ำเดือดจัดก่อน 1 น้ำ เพื่อเอาไขมันสัตว์ออก จากนั้นตั้งไฟให้อ่อนๆ ต้มกระดูกหมูพร้อมน้ำ เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนเดือด อย่าคนบ่อย เพราะจะทำให้น้ำซุปขุ่น ไม่ใสน่าทาน ที่สำคัญอย่าลืมคอยตักฟองมันสัตว์ออกด้วย วิธีการนี้จะช่วยให้น้ำซุปทั้งใส และหวานอร่อย เหมาะจะนำมาทำเป็นน้ำซุปน้ำบะหมี่ หรือก๋วยเตี๋ยวทาน


เมื่อได้น้ำซุปสำหรับไว้ทำบะหมี่หมูแดงแล้ว ขั้นตอนต่อมาเราก็สามารถมาลงมือทำอาหารกันได้เลย เริ่มจากการนำเส้นบะหมี่มาลวกในน้ำเดือดจัดพักไว้ แล้วลวกผักเครื่องเคียงเสริมสำหรับไว้ทานกับบะหมี่ใส่ลงไป อาทิ ถั่วงอก หรือผักบุ้ง เป็นต้น เมื่อลวกเส้นบะหมี่และผักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ซอยหมูแดงชิ้นขนาดพอดีทำวางลงบนหน้าบะหมี่ นำไปราดน้ำซุปก็สามารถทานได้เลย ร้านอาหารอีสาน แนะนำให้ใส่หอมซอยก่อนนำไปทาน เพราะต้นหอมจะช่วยให้บะหมี่มีกลิ่นหอมที่ดีขึ้น เวลาทานก็สามารถเลือกปรุงรสได้ตามใจชอบเลย

วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา

ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะพาเข้าครัวไปรู้จักกับอาหารทำง่าย แต่มากไปด้วยประโยชน์อย่าง "กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา" ได้ฟังแค่ชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นเมนูที่สามารถทำทานได้ง่ายแค่ไหน เมนูกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา แน่นอนว่าต้องเป็นอาหารที่มีวัตถุดิบหลักอย่างกะหล่ำปลีแน่นอน และเครื่องปรุงสำหรับเมนูนี้ก็ต้องเป็นน้ำปลาด้วยเช่นกัน เมนูจานนี้เหมาะสำหรับใครที่กำลังเบื่อๆ เมนูกะหล่ำปลี ก็ลองหันมาทำอาหารสูตรนี้กันดู รับรองว่าจะติดใจในรสชาติอาหาร

เมื่อเรารู้กันคร่าวๆ แล้วว่าวัตถุดิบหลัก และเครื่องปรุงหลักมีอะไรบ้างแล้ว ต่อมาก็มาล้วงความลับในการทำเมนูอาหารประเภทนี้กันบ้างว่าเค้ามีขั้นตอน หรือเคล็ดไม่ลับอะไรบ้างที่ ร้านอาหารอีสาน ปรุงอาหารประเภทนี้กัน เริ่มจากการนำกะหล่ำปลีไปล้างทำความสะอาด แล้วหั่นผักให้เป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ จากนั้นนำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ ในขั้นนี้สำหรับใครที่ต้องการให้อาหารออกมาน่าตาสวยน่าทานแนะนำให้ใส่น้ำมันในปริมาณที่มากหน่อย แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบทานมันก็ให้ใส่น้ำมันในระดับปกติ

จากนั้นรอให้น้ำมันร้อนจัดจึงใส่กะหล่ำปลีลงไปผัดให้คลุกเคล้ากับน้ำมัน พอวัตถุดิบคลุกเคล้ากับน้ำมันทั่วถึงแล้วให้ใส่น้ำปลาผสมน้ำตาลลงไปผัดต่อ เมื่อเครื่องปรุงรสคลุกเคล้ากันดีแล้วก็สามารถตักขึ้นทานได้ ร้านอาหารอีสาน แนะนำว่าในการทำเมนูอาหารประเภทนี้ ไม่แนะนำให้เติมน้ำ เนื่องจากการผัดผักตัวผักเองเมื่อผัดไปซักพัก ผักจะปล่อยน้ำในตัวของผักออกมา ซึ่งภาษาชาวบ้านเรียกว่าผักสลบ ก็จะได้อาหารสุดน่าทานพร้อมน้ำขลุกขลิก ทานกับข้าวสวยร้อนๆ พอดี


วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน เคล็ดไม่ลับในการต้มไข่


ร้านอาหารอีสาน ภูมิใจนำเสนอเคล็ดไม่ลับในการทำไข่ต้ม ให้ได้ไข่แดงที่สุกเหลืองอร่อยตามความต้องการ ก่อนอื่นเลยต้องมาทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า ไข่ต้มนั้นมีหลากหลายระดับความสุก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์(ไข่แดง) ตามความต้องการ ซึ่งการใช้เวลาในการต้มไข่นานมากแค่ไหน ไข่แดงก็จะยิ่งสุกมากแค่นั้น หรือถ้าหากใช้เวลาในการต้มไข่น้อยแค่ไหน ไข่แดงก็จะยิ่งสุกน้อย หรือแทบไม่สุกเลย และที่สำคัญการต้มไข่มีหลากหลายวิธี ทั้งที่เป็นแบบต้มไข่ในจาน และต้มไข่ทั้งฟอง ซึ่งก็ตามแต่ลักษณะความชอบของบุคคลว่าชอบทานไข่ต้มเป็นฟอง หรือชอบทานไข่ต้มในลักษณะอื่น 

ซึ่งการต้มไข่ทั้งสองวิธีต่างก็มีตัวแปรเดียวกัน คือเวลา แต่ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้างในเรื่องของทริคเล็กน้อยในการต้มไข่เป็นฟอง และก็เป็นปัญหาโลกแตกอีกเช่นเคยในการต้มไข่ให้ไม่แตก ร้านอาหารอีสาน มีเคล็ดลับเล็กน้อยในการต้มไข่เป็นฟองไม่ให้แตกมาฝากกัน นั่นคือในการต้มไข่ให้ใส่เกลือป่นผสมลงไปด้วยเล็กน้อย ความเค็มจากเกลือจะช่วยให้เปลือกไข่แข็งแรงขึ้นอีกระดับ ทำให้เวลาน้ำเดือดจัดแล้วไข่ยังไม่สุก เปลือกไข่จะได้ไม่ร้าวแตก

รู้เคล็ดไม่ลับในการต้มไข่ฟองไปแล้ว เราก็จะมาแนะนำวิธีในการต้มไข่ให้ได้ไข่แดงแบบต่างๆ กัน ตามมาดูกันเลย ร้านอาหารอีสาน แนะนำให้จับเวลาในการต้มไข่ เพื่อที่จะได้ไข่แดงในรูปแบบที่เราชอบ เพราะการกะเวลาเอา อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงตามที่ต้องการ ซึ่งถ้าหากอยากได้ไข่ยางมะตูมแนะนำให้ต้มไข่ขณะน้ำเดือดจัดในเวลาระหว่าง 3-7 นาที ในช่วงเวลานี้จะได้ไข่ยางมะตูมสมใจแน่นอน แต่ถ้าชอบทานแบบไข่แดงสุกๆ แนะนำให้ต้มไข่ในขณะน้ำเดือดจัด ตั้งแต่ 9-15 นาทีขึ้นไป ในช่วงเวลานี้จะได้ไข่ต้มแบบไข่แดงสุกๆ อย่างแน่นอน

วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน เคล็ดไม่ลับทอดไข่

ร้านอาหารอีสาน จะพาไปล้วงความลับ เคล็ดไม่ลับของการทอดไข่ให้สวยน่าทาน วิธีทอดไข่ให้สวยเป็นปัญหาโลกแตก ว่าจะทอดยังไงให้สวยน่าทาน แต่วันนี้ปัญหานั้นจะหมดไป เพราะเราจะมาแนะนำวีธีในการทอดไข่ต่างๆ ให้ท่านลองนำเคล็ดไม่ลับนี้ไปใช้ดูบ้าง ก่อนอื่นเลยต้องมาทำความเข้าใจของวิธีในการทอดไข่แต่ละชนิดกันเสียก่อน ซึ่งเราสามารถทอดไข่ได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ การทอดไข่เจียว และการทอดไข่ดาว


เริ่มจากสูตรแรก "การทอดไข่เจียว" ไข่เจียวเป็นอาหารประเภทที่อมน้ำมันมากที่สุด ร้านอาหารอีสาน จึงแนะนำให้ไม่ต้องใส่น้ำมันมากในการทอดไข่ประเภทนี้ แล้วจะทำอย่างไรให้ไข่ฟูสวยน่าทาน และกรอบอร่อย เคล็ดไม่ลับในการทอดไข่ประเภทนี้คือ ในขั้นตอนของการตีไข่ และปรุงรส แนะนำให้ใส่น้ำมะนาวตีผสมลงไปในไข่ด้วย เพราะน้ำมะนาวจะช่วยทำให้ไข่ฟูสวยน่าทาน ที่สำคัญในการตีไข่ต้องตีด้วยความเร็วที่คงที่ และตีให้ไข่ขึ้นฟู ก่อนการลงทอด ส่วนในขั้นตอนของการทอดไข่เจียวนั้น ต้องรอให้น้ำมันร้อนจัด จึงค่อยเทไข่ลงไป เพราะหากทอดในขณะที่น้ำมันยังไม่ร้อนจัด จะทำให้ไข่อมน้ำมันมากกว่าเดิม


อีกสูตรลับจาก ร้านอาหารอีสาน ในการทอดไข่ดาว ก็คือ ไข่ดาวเป็นไข่ประเภทที่ไม่อมน้ำมัน ฉะนั้นในการทอดไข่ประเภทนี้สามารถใช้น้ำมันในการทอดปริมาณที่มากได้ ที่สำคัญการทอดไข่ดาวโดยใช้น้ำมันในปริมาณที่มาก จะทำให้ไข่ดาวสวยน่าทาน ไข่แดงไม่แตก ซึ่งขั้นตอนในการทอดก็คล้ายๆ กับการทอดไข่เจียว นั่นคือทอดในขณะที่น้ำมันร้อนจัด เพียงแค่ใช้ปริมาณน้ำมันที่เยอะกว่าเท่านั้นเอง และเคล็ดลับสำคัญในการทอดไข่ดาวให้สวยคือ ค่อยๆ ตักน้ำมันที่ร้อนจัด ราดลงบนหน้าไข่แดงไปเรื่อยๆ จะทำให้ทั้งไข่แดง และไข่ขาวสุกสวยน่าทานมากยิ่งขึ้น


วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน ยำมะม่วง

ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะเพื่อนๆ เข้าครัวไปทำอาหารทานเล่นยอดนิยมทานกัน อย่างเมนู "ยำมะม่วง" สุดโปรดของใครหลายคน มะม่วงเป็นผลไม้ที่สามารถทานได้ทั้งแบบสุก และแบบดิบ อีกทั้งมีมะม่วงพันธุ์เปรี้ยว และหวานให้เลือกทานอีกด้วย โดยส่วนมากมะม่วงที่มีรสเปรี้ยวนั้นจะถูกนำมาทานคู่กับน้ำจิ้มรสแซ่บ หรือนำมายำทาน ก็อร่อยแตกต่างกันออกไป เพราะรสชาติ รวมถึงรสสัมผัสในแต่ละเมนูอร่อยไม่เหมือนกัน เนื่องจากเครื่องปรุงในแต่ละเมนูต่างกัน

ก่อนอื่นเลยเราต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำยำมะม่วงกันเสียก่อน ประกอบไปด้วย มะม่วงเปรี้ยว(ดิบ) ข้าวคั่ว หอมแดงซอย น้ำปลาร้า พริกป่น และน้ำตาล เมื่อเราเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำยำมะม่วงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาเริ่มลงมือทำยำมะม่วงกันได้เลย เริ่มแรกซอยมะม่วงให้เป็นเส้นๆ แล้วนำไปยำในน้ำเกลือเสียก่อน ขั้นตอนนี้เหมาะสำหรับมะม่วงที่เปรี้ยวมาก ร้านอาหารอีสาน แนะนำให้คั้นเอาน้ำเปรี้ยวของมะม่วงออกก่อน ไม่เช่นนั้นยำมะม่วงของท่านอาจจะเปรี้ยวมากจนทานไม่ได้


เมื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยำมะม่วงทานแล้ว ก็มาปรุงเครื่องกันได้เลย โดยการนำเส้นมะม่วงที่คั้นเอาน้ำเปรี้ยวออกบางส่วนแล้ว มาคลุกเคล้ากับหอมแดงซอย ข้าวคั่ว น้ำปลาร้า พริกป่น และตาลน้ำ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วชิมดูถ้าได้รสชาติที่พอใจก็สามารถนำไปทานได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะได้ยำมะม่วงอร่อยๆ ไว้ทานที่บ้าน ร้านอาหารอีสาน ไม่แนะนำให้ใส่น้ำปลาในการปรุงรส เพราะเราได้รสเค็มจากน้ำปลาร้าอยู่แล้ว ทั้งนี้การใส่น้ำปลาจะทำให้ยำมะม่วงมีกลิ่นคาวไม่น่าทาน

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน หลามปลา


ร้านอาหารอีสาน ภูมิใจนำเสนอ "หลามปลา" แสนอร่อย เมนูอีสานน่าทาน โดยหลามเป็นประเภทอาหารที่ทำให้สุกด้วยอุปกรณ์ไม้ไผ่ ซึ่งใช้ส่วนประกอบหลักอย่างเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ เนื้อปลา หรือเนื้อหมู พร้อมปรุงรสด้วยเครื่องแกงรสเผ็ด ไม่นิยมใส่ผัก หรือใส่แต่เฉพาะผักที่มีกลิ่นหอม ใช้น้ำเป็นส่วนประกอบเพียงเล็กน้อย เครื่องปรุงรสที่ขาดไม่ได้เลย คือน้ำปลาร้า ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วบรรจุใส่เข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ นำไปเผาไฟ จะได้สุดยอดอาหารอันโอชะ ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาล้วงความลับ เคล็ดไม่ลับในการทำหลามปลาช่อนจาก ร้านอาหารอีสาน กัน แต่ก่อนอื่นที่เราจะมาเริ่มลงมือทำหลามไอ้ช่อนกัน เราต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหารกันเสียก่อน ประกอบไปด้วย กระบอกไม้ไผ่สด เนื้อปลาช่อน ใบแมงลัก เครื่องพริกแกงลาว น้ำปลา น้ำปลาร้า ผักชีลาว ใบมะกรูด พริกขี้หนู ใบตอง และเมื่อเราจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำหลามไอ้ช่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราก็จะมาเริ่มลงมือทำอาหารกันได้เลย

ขั้นแรกน้ำปลามาล้างทำความสะอาด แล้วหั่นให้เป็นชิ้นๆ พอดีคำ หรือจะหั่นเป็นแว่นความลักษณะของตัวปลาเพื่อความสวยงาม จากนั้นเคล้าเนื้อปลากับเครื่องพริกแกงลาวให้เข้ากัน ใส่ใบแมงลัก ใบมะกรูด ผักชีลาว และพริกขี้หนู ปรุงรสด้วย น้ำปลาร้า และน้ำปลา นำส่วนผสมใส่เข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ อุดปลายกระบอกไม้ไผ่ด้วยใบตอง นำไปเผาจนเนื้อปลาสุก เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย หรือข้าวเหนียวร้อนๆ ทานคู่กัน อร่อยลืมจนต้องอยากทานซ้ำ 

ร้านอาหารอีสาน มีเคล็ดไม่ลับในการทานหลามไอ้ช่อน มาฝากเพื่อนๆ ชาวรักสุขภาพกัน โดยการทานหลามไอ้ช่วนคู่กับผัดสด อย่างผัดกาดหิ่น อร่อยคู่กันอย่างลงตัว ความหิ่นของผักจะสามารถดับกลิ่นคาวของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ทานอาหารได้มาขึ้น ที่สำคัญยังส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายของร่างกายอีกด้วย เพราะนอกจากจะได้ประโยชน์จากการทานเนื้อปลาแล้ว ยังได้ไฟเบอร์จากผักสดที่ทานคู่กันอีกด้วย อร่อยแถมอุดมไปด้วยประโยชน์มากมายขนาดนี้ เพื่อนๆ อย่าลืมลิ้มรสชาติหลามไอ้ช่อนกันนะคะ    

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน ยำแหนมสด


ร้านอาหารอีสาน "ยำแหนมสด" สุดยอดเมนูอาหารอีสานรสเด็ดจาก ร้านอาหาร ที่หาทานกันได้เฉพาะทางแถบภาคอีสานเท่านั้น โดยมีวัตถุดิบหลักอย่างแหนมสดเป็นพระเอกสำหรับเมนู เมนูอีสานจานนี้เหมาะสำหรับท่านที่ชอบทานแหนมสดเป็นชีวิตจิตใจ แล้วเกิดเบื่อในการทานรูปแบบธรรมดา ยำแหนมสดจานนี้สามารถช่วยท่านได้ โดยการนำมายำผสมเข้ากับน้ำยำรสเด็ดที่เราคุ้นเคย จะได้รสชาติอาหารที่แปลกใหม่ อร่อยเข้ากันอย่างลงตัว

ยำแหนมสดแบบฉบับสาวอีสานอุบล จะพาทุกท่านไปล้วงความลับสูตรเด็ดจาก ร้านอาหารอีสาน ให้ได้ลองทำทานกันที่บ้านง่ายๆ แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำยำแหนมสดกันเสียก่อน ซึ่งประกอบไปด้วย แหนมสด หอมหัวใหญ่ซอย ต้นหอม ผักชี พริกสดหั่น น้ำมะนาว น้ำกระเทียมดอง น้ำปลา ถั่วลิสงคั่ว ขิงอ่อนหั่นฝอย พริกขี้หนูแห้งทอด ใบสาระแหน่ ผักกาดหอม ผัดกาดขาว เมื่อทำความรู้จักกับวัตถุดิบไปเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาเรียนรู้ถึงสูตรลับในการปรุงอาหารกัน เริ่มจาก หั่นแหนมสดให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ (หากต้องการทานแบบสดให้นำไปลวกในน้ำเดือดจัด แต่สำหรับท่านที่ต้องการทานสด ก็สามารถนำมาปรุงอาหารได้เลย) จากนัั้นก็มาเตรียมน้ำยำโดยผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำกระเทียมดอง พริกขี้หนูซอย ให้เข้ากัน ถ้าชอบทานน้ำยำแบบหวานในขั้นตอนนี้ให้ผสมน้ำตาลเพิ่มเข้าไปด้วย เมื่อเตรียมน้ำยำเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นำแหนมมาคลุกเคล้าผสมกับน้ำยำที่ปรุงเสร็จแล้ว เติมหอมหัวใหญ่ซอย ต้นหอม ผักชี ขิงอ่อน ถั่วลิสงคั่วลงไปคลุกเคล้าให้น้ำยำผสมทั่ววัตถุดิบเสริม เพียงเท่านี้ก็จะได้ยำแหนมสดอร่อยๆ ไว้ทานที่บ้านกันแล้ว จัดเสิร์ฟพร้อมผักสดอย่างใบสาระแหน่ ผักกาดหอม ผัดกาดขาว ทานคู่กันอร่อยอย่าบอกใคร

ร้านอาหารอีสาน ภูมิใจนำเสนอเคล็ดลับในการทำอาหารให้เพื่อนๆ ได้อ่าน และทดลองทำทานกันที่บ้านง่ายๆ ทั้งนี้เคล็ดลับที่เราพาเพื่อนๆ ไปล้วงความลับมาสามารถดัดแปลง และเปลี่ยนรสชาติไปตามความต้องการของผู้ปรุงอาหารได้ อีกหนึ่งเคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่อยากบอกต่อ นั่นคือ ควรทานอาหารที่รสชาติพอดีทาน ไม่ควรทานรสชาติที่จัดจนเกินไป เพราะจะทำให้ระบบเผาพลาญของร่างกายทำงานผิดพลาด ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย 

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน ชะอมไข่ทอด

ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะพาเข้าครัวไปรู้จักกับสุดยอดเมนูอาหารอร่อยโดนใจอย่าง "ชะอมไข่ทอด" ถือเป็นเมนูอาหารอีสานที่นิยมทานกันมากที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยเป็นอาหารบ้านๆ ที่นำชะอมมาทอดรวมกับไข่เจียว ได้เป็นสุดยอดอาหารพื้นบ้านไว้ทานกับน้ำพริกรสเด็ดสูตรต่างๆ หลายคนคงคิดว่าชะอมไข่ทอดเป็นเมนูอาหารที่ทำทานเองได้ยาก เนื่องจากกลัวไข่ด้านในไม่สุก แต่จริงๆ แล้วเมนูชะอมไข่ทอดเป็นเมนูอาหารที่สามารถทำทานได้เองที่บ้านง่ายๆ ไม่ยากเลย

วันนี้ทางเราจะพาเพื่อนๆ เข้าครัวไปรู้จัก และล้วงความลับสูตรเด็ดจาก ร้านอาหารอีสาน กัน ว่าเมนูชะอมไข่ทอดที่เราๆ ต่างก็ชื่นชอบในความหอม และความอร่อยนั้น มีเคล็ดลับในการทำให้อร่อยได้อย่างไร ก่อนอื่นที่เราจะมาเริ่มลงมือทำ เราอาจจะต้องมาดีไซน์รูปร่างหน้าตาของชะอมไข่ทอดที่จะได้ออกมาเสียก่อน ว่าต้องการชะอมไข่ทอดออกมาหน้าตาแบบไหน อยากได้ชะอมไข่ทอดแบบแบนๆ ก็ให้เลือกใช้กระทะที่มีลักษณะความกว้างมากหน่อย หรืออยากได้ชะอมไข่ทอดแบบก้อนๆ มนๆ ก็ให้เลือกใช้กระทะที่มีความกว้างไม่มากนัก เมื่อเราเลือกใช้กระทะตามหน้าตาของชะอมไข่ทอดได้เรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาเริ่มลงมือทำกันได้เลย เริ่มจากตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อนจัดแล้วเทไข่ที่ผสมชะอมลงไปทอด พลิกสลับด้านไข่จนกว่าไข่จะเป็นรูปเป็นร่าง จากนั้นให้เทเอาน้ำมันส่วนเกินออกให้หมด แล้วหรี่ไฟลงให้เบาที่สุด ใช้ซ้อมจิ้มลงไปยังตัวไข่ ถ้าเนื้อด้านในยังไม่สุกน้ำไข่จะไหลออกมา แต่ถ้าไม่มีน้ำไข่ไหลออกมาแสดงว่าชะอมไข่ทอดน่าจะสุกในระดับหนึ่ง ให้ทอดต่อไปด้วยระดับไฟที่อ่อน ไม่เช่นนั้นไข่อาจจะไหม้ได้ ในระหว่างที่ทอดด้วยไฟอ่อนๆ ต่อ ก็ให้พลิกสลับด้านไข่ไปมา พร้อมทั้งกดตัวไข่ให้น้ำมันที่อมอยู่ภายในไหลออกมาแล้วเทน้ำมันออกให้หมด ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนพอใจว่าชะอมไข่ทอดสุกได้ที่แล้ว ก็สามารถนำมาทานได้เลย

ร้านอาหารอีสาน มีเคล็ดลับพิเศษในการทานชะอมไข่ทอดให้อร่อยมาฝากกัน นั่นคือการนำชะอมไข่ทอดไปทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ เนื่องจากตัวชะอมเองมีกลิ่นที่ค่อนข้างฉุน เมื่อนำมาทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ จะช่วยดับกลิ่นฉุนของชะอมได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญนอกจากจะดับกลิ่นฉุนได้แล้ว การนำชะอมไข่ทอดมาทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ ยังอร่อยเข้ากันอย่างลงตัวอีกด้วย



วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน แกงเลียงกุ้งสด

ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะพาเข้าครัวไปรู้จักกับสุดยอดแกงรสแซ่บอย่าง "แกงเลียงกุ้งสด" ที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยวัตถุดิบหลักๆ ที่นอกเหนือไปจากกุ้งสดแล้ว แกงเลียงยังประกอบไปด้วยผักเครื่องเคียงนานาชนิด นับได้ว่าทานแกงเลียงกับข้าวสวยร้อนๆ หนึ่งจาน ก็แทบจะได้ประโยชน์ครบถ้วนกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากเนื้อกุ้ง และวิตามินนานาชนิดจากผักเครื่องเคียง พร้อมทั้งไฟเบอร์จากกากใยผักอีกด้วย

นอกจากคุณประโยชน์ที่จะได้รับจากแกงประเภทนี้แล้ว แกงเลียงยังถือได้ว่าเป็นสุดยอดอาหารที่แคลอรี่เบาๆ อีกด้วย อันเนื่องมาจากวัตถุดิบที่เราเลือกใช้ส่วนมากเป็นวัตถุดิบที่ให้วิตามินมากกว่าพลังงาน ซึ่งวัตถุดิบในแกงเลียงที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ก็มีเพียงกุ้งสดเท่านั้น เมื่อเราเล็งเห็นคุณประโยชน์จากการทานแกงประเภทนี้แล้ว เราลองมาเริ่มล้วงความลับสูตรเด็ดจาก ร้านอาหารอีสาน กันดูว่าจะทำแกงเลียงไว้ทานกันที่บ้านง่ายแค่ไหน ก่อนอื่นเราต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารกันเสียก่อน ซึ่งประกอบไปด้วย น้ำซุป(หรือน้ำเปล่า) ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง บวบ กระชายซอย ใบแมงลัก กุ้งสด และพริกแกงเลียง(กระชาย พริกชี้ฟ้า(สีแดงคว้านเมล็ดออก) พริกไทยขาว หอมแดง กุ้งแห้ง กะปิ) เมื่อจัดเตรียมวัตถุดิบและเครื่องเคียงสำหรับอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาเริ่มลงมือทำแกงเลียงแบบฉบับบ้านๆ กันได้เลย เริ่มจากนำเครื่องพริกแกงเลียงมาโขลกรวมกันจนละเอียด ในระหว่างนี้ให้ต้มนำซุปรอจนน้ำเดือด ใส่เครื่องพริกแกงที่โขลกละเอียดลงไป คนให้น้ำซุปและเครื่องพริกแกงเลียงเข้ากัน ใส่ข้าวโพดอ่อน ฟักทองลงไป ต้มจนฟังทองเริ่มนิ่มค่อยใส่บวบเพิ่มเข้าไป รอจนน้ำเดือดใส่กุ้งสดและใบแมงลัก เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงเลียงแสนอร่อยไว้ทานกันที่บ้านง่ายๆ

เมื่อได้แกงเลียงกุ้งสดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นแกงที่สามารถนำมาทานกับอะไรก็อร่อย ไม่ว่าจะเป็นข้าวสวยร้อนๆ หรือจะเป็นเส้นขนมจีน ก็อร่อยไปอีกแบบ สำหรับใครที่ชอบทานอาหารรสเผ็ด และจัดจ้าน ร้านอาหารอีสาน เรามีเคล็ดลับในการปรุงรสมาฝาก ก่อนยกแกงเลียงขึ้นจากเตาให้ท่านใส่ พริกสดซอยลงไป วิธีนี้จะช่วยให้น้ำแกงมีรสชาติเผ็ดจัดจ้านขึ้น


วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน Hitachino Nest Beer

ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะพาไปรู้จักกับ เบียร์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง "Hitachino Nest Beer" หรือเบียร์ดำสายพันธุ์นกฮูก สไตล์ American double และ Imperial stout ดีกรี 7.50 ABV จัดได้ว่าเป็นเบียร์สายพันธุ์ที่น่าทึ่งมาก ด้วยการผสมผสานเทคนิคในการผลิตเบียร์ Hitachino Nest Beer ขึ้นมาก จากขั้นตอนเทคนิคการผลิตเบียร์รุ่นเก่าจากฝั่งยุโรป เข้ากับเทคนิคการหมักบ่มน้ำเบียร์แบบโบราณสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งใช้ถังเบียร์ในการหมักแบบเดียวกันกับการหมักเหล้า Shochu

ลักษณะของ Hitachino Nest Beer จะมีสีดำเงาคล้ายสีของกาแฟสด เมื่อเทใส่แก้วจะมีฟองฟูหนาเกือบ 3 นิ้ว และเมื่อได้ลิ้มลองเข้าไปจะพบกับรสชาติของกลิ่นกาแฟดำที่ชัดเจน ตามด้วยกลิ่นช็อกโกแลต วนิลา และคาราเมลไหม้ แต่สิ่งที่ได้จากการดื่ม Hitachino Nest Beer ก็คือรสชาติที่แปลกไป โดยเมื่อแรกเริ่มดื่มจะสัมผัสกับรสชาติที่ขมประมาณหนึ่ง แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นรสของกาแฟสด แถมก๊าซคาร์บอนที่อัดพอดีอยู่ในน้ำเบียร์ จะช่วยให้สัมผัสถึงความนุ่มของเบียร์ยี่ห้อนี้ชัดเจน ร้านอาหารอีสาน จึงขอแนะนำให้ลองสัมผัสกับรสชาติเบียร์สัญชาตินี้ ความหนักแน่นจะบางกว่าเบียร์สไตล์ Imperial stout แต่ก็เป็นเบียร์ดำ Espresso ที่อร่อยอย่างน่าลิ้มลอง

นอกจากจะเป็นเบียร์ที่มีรสชาติอร่อยแปลกไม่เหมือนใครแล้ว แต่การดื่มเบียร์ยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ร้านอาหารอีสาน จึงมีข้อแนะนำในการดื่มเบียร์มาฝากกัน ในยามค่ำคืนหากท่านใดที่เหนื่อยล้า และต้องการความสดชื่นเพื่อใช้ในการทำงาน แนะนำให้ดื่มเบียร์สัญชาตินี้หลัง เมนูอาหาร มื้อเย็น จะช่วยให้ท่านรู้สึกผ่อนคลาย และสดชื่นกะปรี่กะเปร่าขึ้น



      

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน แกงไตปลา

ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะพาเข้าครัวไปรู้จักกับ "แกงไตปลา" สุดยอดอาหารแคลอรี่เบาๆ แต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าทางสารอาหารที่ได้จากผักที่ใส่เป็นเครื่องเคียงเสริม หรือจะเป็นคุณค่าทางสารอาหารที่ได้จากเนื้อปลา เหตุผลที่แกงไตปลาเป็นอาหารแคลอรี่น้อย เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารส่วนมากนั้นคือผัก ซึ่งผักเป็นอาหารประเภทที่ไม่ให้พลังงาน แต่ให้คุณค่าทางสารอาหารประเภท วิตามิน และไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายภายในร่างกาย ให้ร่างกายสามารถขับถ่ายได้สะดวก และเป็นปกติ


เมื่อเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากอาหารมากมายขนาดนี้แล้ว เราลองมาเริ่มลงมือทำแกงไตปลากันได้เลย ก่อนอื่นที่จะเริ่มลงมือทำอาหารเราต้องมารู้จักกับวัตถุดิบในการประกอบแกงไตปลากันเสียก่อน ซึ่งวัตถุดิบสำหรับทำแกงไตปลานั้น ประกอบไปด้วย ไตปลา ปลาทูสด ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หน่อไม้ลวก ถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือเปราะ น้ำพริกแกงเผ็ดใต้ น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก เมื่อจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำแกงไตปลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็จะมาล้วงความลับจาก ร้านอาหารอีสาน ในการทำอาหารกัน เริ่มจากนำปลาทูสดไปย่างจนสุกหอม แล้วแกะเอาเฉพาะส่วนของเนื้อปลาทูเตรียมไว้ ต้มไตปลากับข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด เพื่อให้ไตปลาไม่มีกลิ่นคาว ต้มไปจนกว่าเครื่องเคียงสมุนไพรจะส่งกลิ่นหอม ตักเครื่องเคียงสมุนไพรเหล่านั้นทิ้ง แล้วใส่พริกแกงเผ็ดใต้ลงไป ต้มต่อจนน้ำซุปเดือดจึงใส่ผักนานาชนิดตามใจชอบเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นฟักทอง หน่อไม้ มะเขือเปาะ และถั่วฝักยาว ก่อนยกขึ้นให้ใส่ใบมะกรูดเพิ่มเข้าไปเพื่อเพิ่มความหอมให้แก่แกงไตปลา ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก ก็สามารถตักทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลย 

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับไก่ย่างสมุนไพร

ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะพาไปรู้จักกับวิธีในการทำ "ไก่ย่างสมุนไพร" ให้ได้ทำทานกันที่บ้านง่ายๆ หลายคนเมื่อเอ่ยถึงไก่ย่าง คงจะเบื่อกับรสชาติอาหารเดิมๆ เป็นแน่ ด้วยไก่ย่างสูตรนี้เป็นสูตรสมุนไพรที่สามารถทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เคล็ดลับในการทานไก่ย่างให้อร่อย ก็คือการทานร่วมกันกับแจ่วน้ำจิ้มอีสานรสเด็ด อย่างปลาร้าบอง รับรองได้ว่าทานคู่กับไก่ย่างร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร และยิ่งมีข้าวเหนียวร้อนนึ่งสุกใหม่ๆ ทานร่วมด้วยก็ยิ่งอร่อยลืม ประโยชน์ของเนื้อไก่นั้นนอกจากจะช่วยเสริมสร้างกร้ามเนื้อให้แก่ร่างกายแล้ว แต่เนื้อไก่ยังมีประโยชน์อีกมากมายนอกเหนือจากนี้ อาทิเช่น สามารถต้านทานโรคซึมเศร้าได้ ช่วยลดอาการเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญการทานเนื้อไก่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย ฟังดูอาจจะขัดแย้งกัน เพราะเนื้อไก่เป็นอาหารประเภทโปรตีน แต่ในความเป็นจริงเนื้อไก่มีสารบางชนิดที่ช่วยลดน้ำหนักของกร้ามเนื้อหน้าท้องได้


เมื่อทราบถึงประโยชน์ และเคล็ดไม่ลับในการทานไก่ย่างให้อร่อยแล้ว ต่อมาก็จะพาเพื่อนๆ มาล้วงเคล็ดลับจาก ร้านอาหารอีสาน ในการย่างไก่ให้อร่อยกัน ก่อนอื่นเราต้องไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับการหมักเนื้อไก่กันเสียก่อน ประกอบไปด้วย ตะไคร้ ข่า หอมแดง กระเทียม พริกไทย น้ำมันหอย น้ำมันงา ซีอิ๊วขาว และน้ำผึ้ง เมื่อได้วัตถุดิบครบแล้ว ต่อมาก็มาลงมือทำไก่ย่างสมุนไพรกันได้เลย เริ่มจากนำตะไคร้ ข่า หอมแดง กระเทียม พริกไทย มาโขลกให้ละเอียด แล้วนำไปผสมกับเครื่องปรุงรสอย่าง น้ำมันหอย น้ำมันงา ซีอิ๊วขาว น้ำผึ้ง ก็จะได้น้ำหมักสมุนไพร แล้วนำไปหมักกับไก่ทิ้งค้างคืนไว้ ประมาณ 1 คืน ก็สามารถนำมาย่างทานได้เลย

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับส้มตำแคปหมู

ร้านอาหารอีสาน วันนี้ขอแนะนำ "ส้มตำแคปหมู" สุดยอดเมนูส้มตำอีสานที่หาทานได้ยากมากๆ ซึ่งส้มตำแคปหมูของแต่ละจังหวัดนั้นก็จะมีลักษณะรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ทั้งลักษณะของเนื้อแคปหมูที่ทางร้านเลือกใช้ก็แตกต่างกันด้วย แต่โดยปกติแคปหมูที่จะนำมาเป็นวัตถุดิบเสริมสำหรับส้มตำนั้นจะต้องมีลักษณะที่เหนียวแต่กรอบ เพราะถ้าหากทางร้านเลือกใช้แคปหมูธรรมดาทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งเป็นแคปหมูที่มีความเปราะบาง เมื่อนำมาตำผสมกับส้มตำ แคปหมูจะดูดเอาน้ำส้มตำไป ทำให้เวลาทานเนื้อแคปหมูจะเหนียมไม่อร่อย


ขั้นตอนในการทำ "ส้มตำแคปหมู" ของทาง ร้านอาหารอีสาน นั้นก็มีเคล็ดไม่ลับที่อยากบอกต่อ ก่อนอื่นที่จะมาลงมือทำส้มตำแคปหมูกันนั้น ต้องมารู้จักกับวัตถุดิบในการทำส้มตำกันเสียก่อน ซึ่งประกอบไปด้วย มะละกอ ถั่วฝักยาว น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกสด กระเทียมสด มะกอก น้ำปลา น้ำปลาร้า และน้ำมะขามเปียก เมื่อเตรียมวัตถุดิบสำหรับตำส้มตำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาลงมือทำได้เลย เริ่มจากสับมะละกอให้เป็นเส้นๆ เตรียมไว้ จากนั้นโขลกกระเทียม และพริกขี้หนูสด พอให้ละเอียดคลุกเคล้ากัน จากนั้นใส่มะเขือเทศ มะกอก มะนาว น้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ปรุงรสจนอร่อย แล้วใส่เส้นมะละกอ พร้อมถั่วฝักยาวลงไป ตำคลุกเคล้าจนเส้นมะละกอเข้ากับเครื่องปรุงรส ก่อนตักเสิร์ฟให้ใส่แคปหมูลงไปคลุกเคล้ากับส้มตำ เพียงเท่านี้ก็จะได้ส้มตำแคปหมูแสนอร่อยทาน

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน สามชัยไก่ย่าง


ร้านอาหารอีสาน สามชัยไก่ย่าง เป็นร้านขายส้มตำ ไก่ย่าง เปิดมานานกว่า 15 ปี ที่ใหญ่และทันสมัย ร้านตั้งอยู่ในเมืองอุบลราชธานี ถนนพโลชัย ห่างจากเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี 300 เมตร มีรูปปั้นไก่ตัวใหญ่ๆ เป็นสัญลักษณ์เด่นเป็นสง่าตั้งอยู่หน้าร้าน ให้บริการทั้งเป็นแบบห้องแอร์ และลานข้างนอกที่กว้างขวาง บรรยากาศร่มรื่น สำหรับคณะทัวร์ สามารถโทรสั่งจองล่วงหน้าได้ มีให้อาหารเลือกทั้งแบบเมนูปกติ หรือจะสั่งเป็นชุดเซตอาหารก็ได้เช่นกัน

เมื่อมาถึงจังหวัดอุบลราชธานี เมนูอาหาร ที่ทุกคนไม่ควรพลาด คือ ส้มตำ ไก่ย่าง ร้านสามชัยไก่ย่าง ไม่ได้มีแค่เมนูส้มตำ ยังเป็น ร้านอาหารอีสาน ที่ให้บริการเมนูอาหารต่างๆ ให้เลือกทานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูปลา เช่น ต้มแซบปลาคังรสเด็ด ปลาคังสดๆ จากแม่น้ำโขง ที่ต้มในน้ำเดือด พร้อมเครื่องเทศนานาชนิด โรยหน้าด้วยใบโหรพาให้กลิ่นหอมชวนรับประทาน และปลาโบราณสามชัยไก่ย่าง ที่เน้นปลาช่อนนาคัดอย่างดี ให้ได้เนื้อปลาหอมหวาน นำมาทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ ได้เนื้อปลาที่กรอบนอกนุ่มใน คลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศ และพริกเผา เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยสมุนไพร เครื่องเทศและผักสดนานาชนิดที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เมนูนี้ทานได้ทุกวัย นอกจากนี้เมนูแนะนำของทางร้านที่ไม่ควรพลาด คือ ไก่ย่างโปเกม่อน ไก่ทอดชินจัง ส้มตำไข่เค็ม ตำแหลก ต้มแซบไก่บ้าน แกงป่าไก่บ้าน ต้มยำไก่บ้านใบมะขามอ่อน อุ๊หน่อไม้พุงปลากะทิสด และที่ขาดไม่ได้ คือ ไก่ย่าง ที่หนังกรอบ ที่ร้านจะย่างให้สุกถึงเนื้อใน ข้างในนุ่มฉ่ำน้ำ มีให้เลือกทั้งส่วนอก หรือส่วนขา ถ้าใครชอบแบบมีมันต้องเลือกสั่งแบบเป็นขา ไก่ครึ่งตัวราคาจะอยู่ที่ 70 บาท เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้ม ซึ่งจะมีน้ำจิ้มให้สองแบบ เป็นน้ำจิ้มแจ่ว กับน้ำจิ้ม สามรส ทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ พร้อมส้มตำรสเด็ด

ร้านอาหารอีสาน สามชัยไก่ย่าง สถานที่สะอาด ที่จอดรถกว้างขวาง พนักงานบริการดี และอาหารที่สั่งได้รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารอีสาน รสแซ่บ สามารถแวะมาทานกันได้ที่ ร้านสามชัยไก่ย่าง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับน้ำพริกกะปิ


ร้านอาหารอีสาน ขอแนะนำวิธีในการทำน้ำพริกกะปิ รับรองว่าอร่อยไม่แพ้เจ้าอร่อยแน่นอน และสำหรับใครที่เบื่อทานผักลวกกับน้ำพริกปลาทูแล้ว แนะนำต้องลองน้ำพริกกะปิทานคู่กับผักลวก รับรองอร่อยอย่างบอกใคร ยิ่งถ้าได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แล้วคุณจะติดใจในรสสัมผัสแน่นอน

วันนี้เรามีเคล็ดลับดีดีในการทำน้ำพริกกะปิมาแนะนำให้ได้ลองทำทานกัน เรา ร้านอาหารอีสาน มีทริคพิเศษเล็กน้อยมาฝากให้ได้ลองทำทานกัน น้ำพริกกะปิจะอร่อยขึ้นอยู่กับทั้งตัวกะปิเอง และเครื่องเคียงผสมที่ต้องสดใหม่ จึงจะทำให้น้ำพริกกะปิมีกลิ่นหอม รสชาติอรอ่ย ขั้นตอนในการทำน้ำพริกกะปิเริ่มจากการนำกะปิห่อใส่ใบตองแล้วนำไปเผา วิธีนี้จะช่วยให้กะปิมีกลิ่นหอมที่ดี จากนั้นให้นำกะปิ กระเทียมไปโขลกรวมกับพริกขี้หนูสวน ซึ่งจะให้กลิ่นหอมดีกว่าพริกสดทั่วไป เมื่อโขลกรวมกันจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้เติมน้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาวผสมลงไป เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อม ที่สำคัญห้ามใส่น้ำปลาเป็นอันขาด เนื่องจากตัวกะปิเค็มอยู่แล้ว และการใส่น้ำปลาจะทำให้น้ำพริกกะปิมีกลิ่นคาวไม่น่าทาน เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำพริกกะปิอร่อยๆ ทานกัน

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ ร้านอาหารอีสาน อยากแนะนำในการเก็บรักษาน้ำพริกกะปิไว้ทานภายหลัง ก็คือเมื่อทานไม่หมดต้องนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น เพราะความเย็นจะช่วยรักษาให้น้ำพริกกะปิไม่บูด 



วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับหมูแดดเดียว


ร้านอาหารอีสาน กับการทำเนื้อหมูแดดเดียว แดดแรงๆ อย่างเมืองไทยแถบภาคอีสานอย่างบ้านเรา เหมาะจะทำอาหารที่ใช้แสงแดดเป็นอย่างมาก เพราะแสงแดดทางแถบพื้นที่อีสานบ้านเรานั้นช่างแสนร้อน ถ้านำเนื้อหมูไปตากแดดแค่เพียงแดดเดียวก็น่าจะสามารถนำมาประกอบอาหารได้เลย ซึ่งเนื้อหมูแดดเดียวนั้นมีวิธีขั้นตอนในการทำง่ายมาก เพียงแค่บ้านท่านมีเนื้อหมูติดตู้เย็น แล้วอยากนำมาแปลรูปให้อาหารสามารถอยู่ได้นานขึ้น วันนี้เรามีเมนูหมูแดดเดียวมาแนะนำให้ลองฝึกหัดทำทานกัน


ขั้นตอนในการทำหมูแดดเดียวฉบับ ร้านอาหารอีสาน สไตล์อีสานบ้านเรา โดยอันดับแรกต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับหมักเนื้อหมูกันเสียก่อน ประกอบไปด้วยเนื้อหมู ข้าวเหนียม กระเทียมโขลกละเอียด เกลือป่น น้ำตาลทราย น้ำมันหอย และเมื่อเราจัดเตรียมวัตถุดิบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเราก็มาเริ่มลงมือทำกันได้เลย เริ่มจากนำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาดแล้วหั่นให้เป็นชิ้นๆ จากนั้นคลุกเนื้อกับกระเทียมโขลก เกลือป่น น้ำตาลทราย และน้ำมันหอยจาเข้ากัน สำหรับในขั้นตอนนี้หากใครที่ต้องการให้เนื้อแดดเดียวที่ได้ออกมามีรสจัด ให้เติมเกลือป่น และน้ำตาลในปริมาณที่มากหน่อย หลังจากผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันเรียบร้อยแล้ว หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงนำข้าวเหนียวมาคลุกกับเนื้อหมูก่อนนำไปตากแดด


หลักการตากเนื้อในการถนอมอาหารของ ร้านอาหารอีสาน ก็คือ ตากจนเนื้อแห้ง เนื่องจากหากเนื้อที่นำไปตากแห้งไม่มากพอ เมื่อนำมาเก็บไว้จะทำให้เนื้อขึ้นราได้ และเมื่อเนื้อแห้งจนเป็นที่ต้องการเรียบร้อยแล้วก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้เลย หมูแดดเดียวทอดกรอบๆ นำมาทานกับข้าวเหนียวนึ่งสุกร้อนๆ เป็นอะไรที่ทานเข้ากันเป็นอย่างมาก





วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทำน้ำพริกปลาทูง่ายๆ กับ ร้านอาหารอีสาน


ร้านอาหารอีสาน ขอแนะนำวิธีในการทำเมนูน้ำพริกไทยๆ อย่าง "น้ำพริกปลาทู" มาฝากกัน ซึ่งน้ำพริกปลาทู้นั้นเป็นน้ำพริกที่ชาวบ้านในสมัยก่อนได้ดัดแปลง นำเอาปลาทูมาทำน้ำพริกเพื่อความไม่จำเจ และได้กลายมาเป็นเมนูน้ำพริกที่อร่อยแล้วบอกปากต่อปาก การทานน้ำพริกคู่กับผักสดนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพ ยังช่วยในเรื่องของระบบขับของร่างกายอีกด้วย การทานผักสดนั้นจะได้วิตามินนานาชนิดอย่างครบถ้วนมากกว่าการทานผักที่นำไปผ่านความร้อน เนื่องจากวิตามินนั้นสามารถสลายตัวในความร้อนได้เป็นอย่างดี


ขั้นตอนในการทำน้ำพริกปลาทู โดยอันดับแรกนั้นเราต้องมีวัตถุดิบหลักอย่างปลาทูเสียก่อน ร้านอาหารอีสาน ได้เลือกใช้ปลาทูที่สดใหม่ เนื่องจากหากใช้ปลาทูที่เก็บค้างคืนไว้หลายวันแล้ว อาจจะทำให้น้ำพริกที่เราทำเสร็จมีกลิ่นเหม็นได้ ที่สำคัญเราอาจเก็บน้ำพริกไว้ทานคราวหลังได้ไม่นานอีกด้วย และเมื่อเราเลือกซื้อปลาทูได้แล้ว ต่อมาก็มาถึงขั้นตอนของการย่างปลาทู ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ปลาทูมีกลิ่นหอมมากกว่าการนำไปทอด และเมื่อย่างปลาทูจนเหลืองได้ที่แล้วก็ทำการแกะเอาเนื้อปลาทูเตรียมไว้


เมื่อเตรียมเนื้อปลาทูเสร็จแล้ว ต่อมาก็ทำการคั่วพริกสด หอม และกระเทียม แล้วนำไปโขลกรวมกับเนื้อปลาทูที่เตรียมไว้ พร้อมทั้งปรุงรสด้วยมะนาว และน้ำปลาให้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำพริกปลาทูอร่อยๆ ไว้ทานกับผักสด



วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อิ่มอร่อยกับ ร้านอาหารอีสาน ลาบหมูทอด

อิ่มอร่อยไปกับอาหารอีสาน จาก ร้านอาหารอีสาน TheHome อุบล "ลาบหมูทอด" ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่สามารถทำทานได้เองที่บ้านง่ายๆ ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน ซึ่งวิธีในการทำลาบหมูทอดได้แก่ ขั้นแรกให้นำหมูมาสับให้ละเอียดแล้วนำไปลวกในน้ำเดือดจัดจนสุก จากนั้นเมื่อหมูสุกแล้วนำมาคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงรสตามใจชอบอย่างน้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว ให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม แล้วเติมแป้งผสมคลุกเคล้าเข้าไปเพื่อให้เนื้อหมูที่สุกแล้วจับตัวกันเป็นก้อน นำหมูมาปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก เนื่องจากหากปั้นเนื้อหมูให้มีขนาดใหญ่มากจนเกินไป เนื้อหมูด้านนอกจะไหม้ก่อนที่เนื้อหมูด้านในจะสุก จากนั้นตั้งกะทะโดยใช้น้ำมันปริมาณที่มาก รอจนกว่าน้ำมันจะร้อนจัดจึงใส่หมูที่ปั้นไว้ลงไป เมื่อเนื้อหมูเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลือง ให้ตักขึ้นพักไว้ในตระแกงเพื่อให้สะเด็ดน้ำมัน เพียงเท่านี้ก็จะได้หมูทอดอร่อยๆ ทานหนึ่งจาน

ร้านอาหารอีสาน มีเคล็ดลับดีๆ ในการทานลาบหมูทอดให้อร่อยมาฝากกัน นั่นก็คือการทานร่วมกับผักสด เนื่องจากลาบหมูทอดนั้นเป็นเมนูอาหารประเภทของคาว ที่สามารถทานร่วมกันกับผักสดนานาชนิดได้เข้ากันเป็นอย่างดี และนอกจากผักสดจะเป็นเครื่องเคียงเสริมสำหรับใช้ทานร่วมกับลาบหมูทอดแล้ว ผักสดยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย สามารถช่วยทำให้ระบบขับถ่ายภายในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ เนื่องจากในผักสดนั้นต่างก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์ในปริมาณที่มาก ทำให้สามารถขับถ่ายได้สะดวก และง่ายขึ้น นอกจากผักสดจะมีเส้นใยช่วยในเรื่องของการขับถ่ายแล้ว แต่ผักสดก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย


วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับเมนูอาหารเจ

ร้านอาหารอีสาน "เดอะโฮมอุบล" เป็นร้านอาหาร ไทย-อีสาน บรรยากาศดี และน่านั่งที่สุดอีกหนึ่งร้านอาหารในจังหวัดอุบล ด้วยบรรยากาศของ ร้านอาหารอีสาน ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ธรรมชาติอีสานบ้านเรา ผสมผสานเข้ากับสไตล์โมเดิร์นที่ทันสมัยได้เข้ากันอย่างลงตัว ทำให้ร้านอาหารในอุบลร้านนี้กลายเป็นร้านอาหารที่น่าค้นหาอยากลองเข้าไปใช้บริการยิ่งนัก นอกจากความสวยงามของบรรยากาศ ร้านอาหารอีสาน ร้านนี้ที่เป็นตัวช่วยเพิ่มอรรถรสให้การทานอาหารอร่อยมากยิ่งขึ้นแล้ว ร้านอาหารเดอะโฮมยังมีวงดนตรีสดที่คอยบรรเลงขับกล่อมเสียงเพลงให้ท่านได้ฟังตลอดยามค่ำคืนของการทานอาหารที่ร้านอีกด้วย ที่สำคัญนอกจากจะมีเสียงเพลงคอยบรรเลงขับกล่อมให้ได้ฟังแล้ว ร้านอาหารในอุบลร้านนี้ยังมีการแสดงพื้นบ้านอีสานอย่างโปงลางให้ท่านได้รับชมกันทุกๆ คืนวันศุกร์อีกด้วย

ร้านอาหารอีสาน เดอะโฮมอุบลเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น. ทั้งยังมีห้องจัดเลี้ยง และห้องคาราโอเกะไว้สำหรับบริการแก่ลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการทานอาหาร หรือต้องการผ่อนคลายจากความตึงเครียดในระหว่างทำงานอีกด้วย

วันนี้ ร้านอาหารอีสาน เดอะโฮมอุบลมีเคล็ดลับในการกินเจมาฝากมือใหม่ที่พึ่งเริ่มหัดทาน เมนูอาหารเจ ให้ได้ทราบกัน โดยข้อห้ามสำหรับนักทานเจที่ต้องปฏิบัติให้ได้นั้นมีอยู่มากมายหลายข้อ แต่มีข้อห้ามที่ต้องปฏิบัติให้ได้อย่างเคร่งครัดเลยก็คือ การงดเว้นจากการทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด, งดทานนม หรือเนยที่ประกอบขึ้นจากสัตว์, งดทานอาหารรสจัดทุกชนิดทั้งเปรี้ยว หวาน เผ็ด และเค็ม แต่ไม่ได้หมายความว่าห้ามทานอาหารที่มีรสเผ็ด คือสามารถทานอาหารที่มีรสเผ็ดได้แต่ต้องไม่จัดจ้าน, งดทานผักที่มีกลิ่นฉุนอย่างกระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบ, ที่สำคัญงดใช้จาน หรือชามทานอาหารร่วมกับผู้ที่ไม่ได้ทานอาหารเจ เนื่องจากอาจจะมีกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ติดมากับจานชามที่ใช้ร่วมกันได้




วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

ลาบเต้าหู้เจ จากร้านอาหารอีสาน TheHome

เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ ใครหลายคนอาจจะกังวลว่าจะมีอาหารแนวอีสานที่เป็นเมนูอาหารเจบ้างไหม วันนี้ ร้านอาหารอีสาน TheHome ขอนำเสนอเมนูอาหารเจ"ลาบเต้าหู้เจ" ที่ได้นำเต้าหู้ถั่วเหลืองมาประยุกต์ทำเป็นเมนูอาหารเจที่มีรสชาติแนวอาหารอีสานอย่างลาบ

ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูอาหารประเภทลาบแล้ว ทุกคนคงจะนึกถึงอาหารที่มีรสชาติแซ่บจัดจ้านถึงใจ ทั้งยังต้องเป็นเมนูอาหารที่มีกลิ่นหอมของเครื่องเคียงสมุนไพรอย่างใบะมะกรูดด้วย อาหารเจอย่างลาบเต้าหู้เจก็เช่นเดียวกัน ที่ทาง ร้านอาหารอีสาน TheHome ได้นำวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารเจมาดัดแปลงผสมร่วมกับวัตถุดิบเครื่องเคียงสำหรับทำอาหารประเภทลาบ ทำให้เกินเมนูอาหารเจรสชาติอาหารอีสานขึ้นมา ซึ่งวิธีในการทำลาบเต้าหู้เจนั้น มีวิธีในการทำที่แสนจะง่ายดาย โดยอันดับแรกถ้าเป็นลาบอีสานก็จะใช้เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับประกอบอาหาร แต่สำหรับอาหารเจก็จะเลือกใช้เต้าหู้ถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารแทน ต่อมาเมื่อเตรียมวัตถุดิบหลักเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้นำเต้าหู้ถั่วเหลืองมาคลุกเคล้ากับข้าวคั่ว พริกสดซอยละเอียด ผักชี และผงปรุงรสเห็ดหอม เพียงเท่านี้ก็จะได้อาหารเจที่แสนอร่อยทาน

การทานอาหารเจนอกจากจะเป็นการสร้างบุญ ที่ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์แล้ว ยังเป็นการทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เนื่องจากการทานอาหารเจติดต่อกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะช่วยให้ร่างกายสามารถขับสารพิษหรือของเสียออกจากร่างกายได้หมด  

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

แกงคั่วหอยขม กับร้านอาหารอีสาน The Home

"แกงคั่วหอยขม" กับ ร้านอาหารอีสาน The Home อุบล สุดยอด เมนูอาหาร รสเด็ดของชาวอีสานที่นิยมทานกันทั้งในอดีตและปัจจุบัน ด้วยเป็นรสชาติอาหารที่อร่อย กลมกล่อม และเผ็ดจัดจ้านถึงใจ ทั้งยังมีวิธีการทานที่แปลกไม่เหมือนใคร ด้วยเป็นเมนูอาหารที่ต้องใช้ไม้จิ้มฟันจิ้ม เพื่อใช้ในการดึงเนื้อหอยออกมาจากเปลือกเพื่อรับประทาน

หอยขม หรือ หอยจุ๊บ ที่ทาง ร้านอาหารอีสาน นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารนั้น จำเป็นจะต้องตัดก้นหอยออก เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน และจำเป็นจะต้องล้างทำความสะอาดก่อนนำมาประกอบอาหาร มากกว่าปกติเนื่องจากหอยขมนั้นจะอยู่อาศัยบริเวณใต้ผิวน้ำ จึงทำให้ลำตัวหรือเปลือกของหอยมีดินติดอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งวิธีในการทำแกงคั่วหอยขมนั้นก็มีวิธีในการทำที่ง่าย ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน สามารถทำทานที่บ้านได้ง่ายๆ โดยขั้นตอนแรกนั้นนำหอยขมที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วมาต้มให้สุก หากต้มนานมากจนเกินไปจะทำให้เนื้อหอยขมแข็งด้านไม่น่ารับประทาน เนื่องจากต้องนำหอยไปแกงอีกรอบอยู่แล้ว เมื่อหอยขมสุกแล้วตักนำมาพักไว้ในน้ำเย็น จากนั้นทำการเตรียมเครื่องแกง โดยนำน้ำพริกแกงคั่วมาผสมกับน้ำกะทิแล้วนำขึ้นตั้งไฟ ไม่ต้องรอให้กะทิแตกมันแค่ให้เดือดพอ แล้วทิ้งหอยขมที่ต้มสุกลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บรอให้เดือด ใส่ใบชะพลูหั่น พริกขี้หนูสด และใบมะกรูดซอยเข้าไป เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานได้

อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญของ ร้านอาหารอีสาน ที่ทำให้แกงคั่วหอยขมอร่อย และมันนั้นก็คือ ก่อนจะยกขึ้นจากเตาให้เติมหัวกะทิลงไปอีกรอบ เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงคั่วหอยขมที่อร่อย และมัน กลมกล่อมน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

กุ้งแช่น้ำปลา เมนูเด็ดร้านอาหารอีสาน

ร้านอาหารอีสาน The Home ขอนำเสนอเมนูอาหาร "กุ้งแช่น้ำปลา" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่เหล่าบรรดาร้านอาหารต่างๆ จะขาดไม่ได้ ด้วยความอร่อยและความสดของกุ้งที่ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารยอดนิยมของลูกค้า ที่ไม่ว่าใครเมื่อมาทานอาหารจำเป็นจะต้องสั่งเมนูอาหารจานนี้มาทานทุกครั้ง เมนูอาหารอย่างกุ้งแช่น้ำปลานั้นเมื่อนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ จะได้รสสัมผัสจากเนื้อกุ้งสดๆ ที่หอมหวานน่าลิ้มลอง หรือจะนำมาทานร่วมกับเครื่องดื่มก็อร่อยไปอีกแบบ
หลายคนเมื่อเอ่ยถึงชื่อเมนูอาหารกุ้งแช่น้ำปลาแล้วอาจจะไม่กล้าทาน เนื่องด้วยเป็นเมนูอาหารที่ดิบ แต่สำหรับเมนูอาหารกุ้งแช่น้ำปลาจานนี้ของ ร้านอาหารอีสาน The Home นั้น ทางร้านอาหารในอุบลได้คัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบในการนำมาประกอบอาหารที่สดใหม่ และมีคุณภาพทุกวัน ด้วยกุ้งสดๆ ตัวโตๆ นำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำรสเด็ดของ ร้านอาหารอีสาน The Home ได้เป็นเมนูอาหารที่มีกลิ่นหอมของเครื่องเคียงสมุนไพร ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารที่น่าทานยิ่งนัก ความหอมของเครื่องเคียงสมุนไพรที่ได้จากใบสะระแหน่ พริกสด และกระเทียม ช่างเป็นเครื่องเคียงที่สามารถใช้ดับกลิ่นคาวของอาหารทะเลได้เป็นอย่างดี เคล็ดลับในการทานเมนูอาหารประเภทนี้ให้อร่อยก็คือ การทานกุ้งแช่น้ำปลาร่วมกับมะระที่หั่นเป็นชิ้นๆ ความขมจากมะระผสมรวมกับรสชาติของน้ำยำ ทำให้กลายเป็นรสชาติอาหารที่อร่อยกลมกล่อมอย่างลงตัว
ร้านอาหารอีสาน The Home มีเคล็ดลับในการทำกุ้งแช่น้ำปลาให้อร่อยมาฝาก เริ่มจากการนำวัตถุดิบหลักอย่างกุ้งมาล้างทำความสะอาด และแกะเปลือกออกให้เรียบร้อย จากนั้นผ่าหลังกุ้งแล้วดึงไส้ (สำดำ) ออก นำกุ้งไปแช่ในน้ำเย็นที่ผสมน้ำส้มสายชู แล้วนำมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำธรรมดาอีกรอบหนึ่ง จากนั้นนำกุ้งไป คลุกเคล้ากับน้ำปลาแล้วนำขึ้นจัดเรียงไว้ในจาน เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เมนูอาหารจานนี้อร่อยก็คือน้ำยำ ในส่วนของน้ำยำนั้นจำเป็นต้องทำให้ได้รสชาติที่จัดจ้าน และต้องหอม เนื่องจากวัตถุดิบหลักของเมนูอาหารเป็นอาหารทะเล นำเครื่องเคียงอย่างพริกสด และกระเทียม มาโครกรวมกันแล้วนำไปปรุงรสด้วยน้ำมะนาว นำมาราดบนตัวกุ้งจะได้เมนูกุ้งแช่น้ำปลาที่อร่อยจัดจ้านน่าลิ้มลอง

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ปลาทับทิมสามรส กับร้านอาหารอีสาน

"ปลาทับทิมสามรส" เมนูอาหารจานเด็ดจาก ร้านอาหาร The Home โดยใช้วัตถุดิบหลักอย่าง ปลาทับทิม เป็นส่วนประกอบสำคัญ รสชาติของเมนูอาหารจานนี้ครบเครื่องทั้งสามรสชาติ ได้แก่ เผ็ด เปรี้ยว และหวาน รวมอยู่ในเมนูเดียว จึงเป็นเหตุให้ถูกเรียกว่า ปลาทับทิมสามรส ถือได้ว่าเมนูปลาทับทิมสามรสของ ร้านอาหารอีสาน ร้านนี้เป็นเมนูสำหรับคนที่รักสุขภาพ และยังเป็นเมนูอาหารสำหรับท่านที่ควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย เนื่องจากเป็นเมนูอาหารที่ทำจากปลาล้วนๆ ซึ่งเนื้อปลานั้นเป็นเนื้อสัตว์ชนิดที่ให้โปรตีนสูง แต่ไขมันต่ำ ที่สำคัญทั้งโปรตีน และไขมันจากเนื้อปลานั้น ยังเป็นโปรตีนที่มีประโยชน์มากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ และไขมันที่ได้จากเนื้อปลา ก็เป็นไขมันชนิดที่ให้โอเมก้า 3  ซึ่งเป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว มีประโยชน์มากกว่าไขมันธรรมดาทั่วไป เมนูอาหารจานนี้ ร้านอาหารอีสาน The Home สามารถทอดเนื้อปลาทับทิมออกมาได้กรอบมาก กรอบจนสามารถทานก้างปลาที่ติดมากับเนื้อปลาได้เลย

นอกจากเนื้อปลาที่ทาง ร้านอาหารอีสาน The Home สามารถทอดออกมาได้กรอบแล้ว เมนูอาหารจานนี้ยังมีความอร่อยอยู่ที่น้ำจิ้มที่ใช้ราดตัวปลาอีกด้วย น้ำจิ้มที่ใช้ราดปลาทับทิมของร้านอาหารในอุบลร้านนี้ สามารถทำออกมาได้รสชาติที่มีความสมดุลย์กันระหว่างรสชาติทั้งสามรส ไม่มีรสหนึ่งรสใดที่อ่อนหรือจัดจ้านไปกว่ากัน เคล็ดลับของรสชาติน้ำจิ้มที่อร่อยของ ร้านอาหารอีสาน ก็คือ การเลือกใช้พริกขี้หนูในการให้ความเผ็ด เนื่องจากพริกขี้หนูสดจะมีความหอมมากกว่าพริกสดทั่วไป ส่วนรสเปรี้ยวนั้นทางร้านอาหารในอุบลร้านนี้ก็เลือกใช้ความเปรี้ยวจากน้ำมะขาม เพราะจะให้ความหอมมากกว่าการใช้ความเปรี้ยวจากน้ำมะนาว และรสหวานทางร้านเลือกใช้ความหวานจากน้ำตาลปี๊บ เพราะน้ำตาลปี๊บจะให้ความหอมมากกว่าน้ำตาลทรายทั่วไป

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทานส้มตำปูม้ากับ ร้านอาหารอีสาน

"ส้มตำปูม้า" เมนูอาหารยอดฮิตจาก ร้านอาหารอีสาน The Home เป็นเมนูอาหารยอดนิยมของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล มีลักษณะคล้ายตำไทยบ้านเรา เหมาะสำหรับท่านที่ทานเผ็ดไม่ค่อยได้ โดยสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเมนูอาหารชนิดนี้ก็คือ "ปูม้า" ที่ใส่มาเป็นเครื่องเคียงในส้มตำ สิ่งที่ทำให้เมนูแนะนำเมนูนี้แตกต่างจากส้มตำปูธรรมดาทั่วไป คือปูม้าจะให้ความหอมแบบกลิ่นอายทะเล ซึ่งต่างจากปูดองธรรมดาทั่วไป นำมาทานคู่กับส้มตำที่ ร้านอาหารอีสาน The Home รังสรรค์ออกมาในแบบฉบับไทยๆ แล้วให้รสสัมผัสอย่างได้ไปทานที่ทะเลจริงๆ อีกทั้งรูปแบบของตำปูม้านอกจากจะมีรสชาติอย่างตำไทยแล้ว ตำปูม้ายังมีน่าตาละม้ายคล้ายตำมั่วของอีสานบ้านเราอีกด้วย โดยส่วนประกอบหลักๆ ของตำปูม้าจะประกอบไปด้วย ปูม้า ซึ่งเป็นพระเอกของเมนูอาหารชนิดนี้ และมีเครื่องเคียงเสริมอย่างตำมั่ว ได้แก่ ถั่วงอก และเส้นขนมจีน นอกจากนี้ยังมีกุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่ว และถั่วฝักยาวซอย อย่างตำไทย ถ้าจะให้นิยามความเป็นตำปูม้าในแบบฉบับของ ร้านอาหารอีสาน ร้านนี้ก็คือการนำตำมั่ว และตำไทยมาผสมรวมกันให้เกิดรสชาติอาหารที่แปลกใหม่ขึ้น
          ร้านอาหารอีสาน The Home อุบล ยังใส่ใจ และให้ความสำคัญถึงรสชาติอาหาร วัตถุดิบที่เลือกใช้ และคุณภาพของอาหาร โดยเคล็ดลับที่ทำให้ส้มตำอร่อยไม่แพ้วัตถุดิบอย่างอื่น ก็คือมะละกอ ร้านอาหารในอุบลร้านนี้สามารถเลือกใช้มะละกอได้กรอบอร่อย เนื่องจากมะละกอนั้นมีหลายประเภท ทั้งแบบที่ใช้สำหรับทานสุก มะละกอประเภทนี้หากนำมาทานดิบเนื้อจะเหนียวไม่อร่อย และมะละกอที่ใช้สำหรับทานดิบ ซึ่งส่วนมาก ร้านอาหารอีสาน ต่างๆ จะนำมาเป็นวัตถุดิบในการตำส้มตำ จะมีเนื้อกรอบไม่เหนียว ส่วนวัตถุดิบที่ใช้ในการให้ความหวานของเมนูส้มตำ ก็คือน้ำตาลปี๊บ เนื่องจากน้ำตาลปี๊บจะให้ทั้งความหวานและความหอม ซึ่งต่างจากน้ำตาลทรายธรรมดาทั่วไป ที่จะให้เพียงความหอมเท่านั้น

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ยำสาวเดอะโฮม จากร้านอาหารอีสาน The Home อุบล

 "ยำสาวเดอะโฮม" เป็นเมนูอาหารจานเด็ดที่คิดค้นโดย ร้านอาหารอีสาน The Home และเป็นอาหารจานพิเศษที่หาทานจากที่ไหนไม่ได้นอกจาก ร้านอาหารอีสาน ร้านนี้เท่านั้น หลายคนเมื่อได้ยินชื่อนี้คงจะเกิดความสงสัยว่าหน้าตาของเมนูอาหารจานนี้จะเป็นเช่นไร เมนูอาหารจานนี้ได้รวมความแตกต่างอย่างลงตัวของชนิดอาหารไว้ที่เมนูอาหารจานนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารทะเล อย่างกุ้ง หอย และหมึก, เครื่องในหมู หมูสับ และไข่ดาว ด้วยชนิดของอาหารที่นำมาประกอบเป็นยำสูตร The Home ฟังดูแล้วไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่ด้วยเคล็ดลับการปรุงรสของร้านอาหารในอุบลร้านนี้ที่สามารถทำให้ เมนูอาหารจานนี้กลายเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อย จัดจ้าน และกลมกล่อมได้ ที่สำคัญไม่หลงเหลือความคาวของอาหารทะเล และเครื่องในสัตว์ที่ใส่เพิ่มเข้ามาในเมนูอาหารจานนี้ด้วย เครื่องเคียงที่ทาง ร้านอาหารอีสาน ใช้เป็นวัตถุดิบของเมนูอาหารจานนี้นั้นทางร้านจะต้องใส่ใจถึงกลิ่นของเครื่องเคียงโดยเฉพาะ เนื่องจากส่วนประกอบหลักของเมนูอาหารเป็นส่วนประกอบที่มีกลิ่นคาว ฉะนั้นจึงต้องใส่ใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ อย่างวัตถุดิบที่ให้ความเผ็ดจำเป็นต้องใช้พริกขี้หนูสด เพราะเป็นพริกชนิดที่ให้ทั้งความเผ็ด และมีกลิ่นหอม นอกจากนี้ยังต้องใช้เครื่องเคียงสมุนไพรไทยอย่าง หอมหัวใหญ่ ต้นหอม และผักชี เนื่องจากเครื่องเคียงเหล่านี้เป็นเครื่องเคียงที่มีกลิ่นหอมอย่างสมุนไพรไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้สามารถดับกลิ่นคาวของวัตถุดิบหลักได้เป็นอย่างดี

เมนูอาหารของ ร้านอาหารอีสาน The Home จานนี้อุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งโปรตีนเป็นสารอาหารที่มีกรดอะมิโนหน่วยเล็กๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย และเมื่อกรดอะมิโนรวมตัวกับไนโตรเจนภายในร่างกาย ก็จะกลายเป็นกรดอะมิโนชนิดต่างๆ มากมายหลายชนิด ซึ่งโปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ทั้งยังช่วยเสริมสร้างส่วนที่ซึกหรอ และยังเป็นแหล่งให้พลังงานในกรณีที่ร่างกายขาดพลังงาน นอกจากจะได้สารอาหารประเภทโปรตีนจากการทานเมนูอาหารจานนี้แล้ว ยังจะได้ประโยชน์จากเครื่องเคียงที่ใส่เพิ่มเข้ามาในเมนูอาหารอีกด้วย

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ตำถั่วหมูกรอบ เมนูรสแซ่บจากร้านอาหารอีสาน

"ตำถั่วหมูกรอบ" เมนูอาหารสุดคลาสสิคจาก ร้านอาหารอีสาน The Home อุบล เป็นเมนูตำถั่วรูปแบบใหม่ที่มีหมูกรอบเป็นเครื่องเคียงเสริมไว้ทานคู่กับเมนูอาหาร ตำถั่วหมูกรอบของร้านอาหารในอุบลร้านนี้ถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน แซบถึงใจ ด้วยวัตถุดิบที่ให้ความเผ็ดอย่างพริกขี้หนู ซึ่งเป็นพริกประเภทที่ให้ความเผ็ดมากเป็นพิเศษ นอกจากความจัดจ้านที่ได้จากการทานเมนูอาหารประเภทนี้แล้ว คุณยังจะได้สัมผัสถึงความหอมจากปลาร้าที่ทาง ร้านอาหารอีสาน ปรุงแต่งเข้ามาในอาหาร ซึ่งปลาร้าที่ร้านอาหารในอุบลร้านนี้ใช้ เป็นปลาร้าสูตรต้นตำหรับที่คิดค้น และผลิตขึ้นมาเองกับมือ โดยจะให้ความหอมมากกว่าปลาร้าตามท้องตลาดทั่วไป ร้านอาหารอีสาน The Home เองยังใส่ใจถึงคุณภาพของถั่วที่นำมาประกอบอาหารให้ลูกค้าทาน ซึ่งจะคัดสรรเฉพาะถั่วที่ปลอดสารพิษ และต้องเป็นถั่วที่ไม่ฝ่อ เพราะอาหารจะมีรสชาติที่อร่อยนั้นต้องขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เลือกใช้ด้วย หากนำถั่วที่ฝ่อมาประกอบอาหารจะทำให้รสชาติของอาหารเสียไปด้วย
          นอกจาก ร้านอาหารอีสาน ร้านนี้จะใส่ใจในเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ และความสะอาดของอาหารแล้ว ร้านอาหารในอุบลร้านนี้ยังใส่ใจถึงคุณภาพของเครื่องเคียงอย่าง "หมูกรอบ" ที่นำมาทานกับเมนูอาหารจานนี้ หมูกรอบที่ใช้เป็นเครื่องเคียงในเมนูอาหารถูกทอดออกมาโดยไม่อมน้ำมัน และเหลืองกรอบอร่อยสมชื่อ ทำให้เมนูตำถั่วหมูกรอบกลายเป็นเมนูแนะนำสำหรับใครหลายคนที่ชอบทานอาหารประเภทส้มตำ เมื่อท่านได้ลองทานเมนูอาหารนี้จาก ร้านอาหารอีสาน The Home ท่านจะสัมผัสได้ถึงความกรอบอร่อยของถั่ว และเครื่องเคียงอย่างหมูกรอบ พร้อมทั้งยังได้ความหอมอร่อยจากปลาร้า หรือจะเป็นความเผ็ดจัดจ้านจากพริกขี้หนู และความเปรี้ยวจากน้ำมะนาว และน้ำมะขามที่ใส่ผสมรวมกัน กลายเป็นรสชาติอาหารที่กลมกล่อมชวนรับประทาน

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อิ่มอร่อยที่ร้านอาหารอีสาน The Home อุบล กับเครื่องดื่มสุขภาพ

เครื่องดื่มสำหรับผู้รักสุขภาพอย่าง "น้ำสตรอเบอร์รี่ปั่น" จากร้านอาหารอีสาน The Home อุบล จัดเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลปนอยู่ในปริมาณที่น้อย เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งการทำเครื่องดื่มประเภทนี้ให้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม จำเป็นต้องเติมเกลือป่นผสมลงไปในน้ำปั่นเล็กน้อย จะทำให้ได้รสสัมผัสทั้งเปรี้ยว หวาน และเค็ม ที่สำคัญนั้นการทานน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นจำเป็นต้องนำสตรอเบอร์รี่ไปแช่ในน้ำเชื่อม เพื่อให้ตัวสตรอเบอร์รี่เองดูดซับความหวานจากน้ำเชื่อมเข้าไป เคล็ดลับที่จะทำให้สตรอเบอร์รี่สามารถดูดซับความหวานจากน้ำเชื่อมได้ดีนั้น จำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่สัมผัสให้แก่สตรอเบอร์รี่ โดยการผ่าครึ่งผลสตรอเบอร์รี่ออกเป็นสองส่วน วิธีนี้จะเป็นการเพิ่มพื้นที่สัมผัสของอาหารให้สามารถดูดซับได้ดีขึ้น
เครื่องดื่มสุขภาพจากร้านอาหารอีสานร้านนี้ ถือได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ ช่วยในเรื่องผิวพรรณที่สดใสเปล่งปลั่ง เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในปริมาณที่สูงมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ ถึง 7 เท่า นอกจากจะมีสารต้านอนุมูลในปริมาณที่สูงแล้ว ผลไม้ชนิดนี้ยังมีวิตามินอยู่ในปริมาณที่สูงอีกด้วย ซึ่งสารอาหารคุณประโยชน์ทั้งสองอย่างนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว นอกจากการทานเครื่องดื่มชนิดนี้จะช่วยทำให้มีผิวพรรณที่สดใสเปล่งปลั่งแล้ว ยังช่วยให้มีกล้ามเนื้อหัวใจที่แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้ด้วย นอกจากนี้ยังป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยให้มีภูมิคุ้มที่ปกติอีกด้วย

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ตำผลไม้ เมนูเด็ดจากร้านอาหารอีสาน

          "ตำผลไม้" เมนูแนะนำจากร้านอาหาร The Home เป็นร้านอาหารอีสานในอุบลที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติอาหารอร่อย และบรรยากาศดีน่านั่ง ด้วยสไตล์การตกแต่งของร้านอาหารที่แปลกไม่เหมือนใคร ทั้งสไตล์ธรรมชาติอีสานบ้านเรา และสไตล์โมเดิร์นทันสมัยที่ตกแต่งผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว ร้านอาหารในอุบลร้านนี้เป็นร้านอาหารอีสานที่มีรสชาติอาหารเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่หาทานรสชาติอาหารอีสานแบบนี้ได้จากร้านอาหาร The Home ที่เดียว โดยร้านอาหารใส่ใจกับคุณภาพของอาหาร และความสะอาดเป็นสำคัญ นอกจากท่านจะได้ทานอาหารอร่อยจากร้านอาหารในอุบลร้านนี้แล้ว ทางร้านยังมีวงดนตรีสดคอยบรรเลงขับกล่อมให้ท่านทานอาหารได้อย่างมีอรรถรส ด้วยโครงสร้างของร้านอาหารเป็นแบบเปิดโล่ง ทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้ามาได้ทุกทิศทาง ชวนให้ท่านหลงไหลไปกับบรรยากาศสุดคลาสสิกของร้านอาหารอีสานร้านนี้
          สำหรับเมนูแนะนำ "ตำผลไม้" จากร้านอาหารอีสาน The Home อุบลนั้น เป็นอาหารประเภทคล้ายยำ ที่นำเอาผลไม้นานาชนิดมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำยำรสเด็ด สูตรลับเฉพาะของทางร้านอาหาร โดยในเมนูตำผลไม้จะประกอบไปด้วย แอปเปิ้ลเขียว สับปะรส องุ่น ชมพู่ และมะเขือเทศราชินี ล้วนแล้วแต่เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลในปริมาณที่น้อย แต่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ในปริมาณที่สูง ซึ่งเมนูตำผลไม้เหมาะที่จะเป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ เนื่องด้วยเป็นอาหารที่ให้พลังงาน และแคลอรี่ในปริมาณที่ต่ำ ทั้งยังเป็นเมนูอาหารที่ให้คุณประโยชน์จำพวกวิตามินต่างๆ ซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย การทานผลไม้มากๆ จะช่วยทำให้มีผิวพรรณที่สดใส และยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ห่อหมกหน่อไม้สูตร ร้านอาหารอีสาน

หมกหน่อไม้
ห่อหมกหน่อไม้จาก ร้านอาหารอีสาน ความอร่อยที่ลงตัวจึงทำให้ร้านอาหารอีสานได้ทำเมนูมาเสิร์ฟบริการลูกค้ารสชาติเฉพาะและความกรอบสดใหม่ของหน่อไม้จึงทำให้เมนูนี้ขายดีพูดแล้วน้ำลายไหลความหอมบวกกับรสชาติของเครื่องปรุงของหมกหน่อไม้วันนี้เราจะมารีวิววิธีการทำหมกห่อไม้สูตรง่ายๆที่พ่อครัวมือใหม่ก็สามารถทำได้ไม่ยากอย่างที่คิดขั้นตอนแรกให้เราเตรียมวัตถุดิบของที่จะทำเมนูหมกหน่อไม้วัตถุดิบมีดังนี้
1.หน่อไม้ลวก 2.หมูสามชั้น 3.ใบยอเลือกใบที่อ่อนๆ 4.หอมหัวแดง 5.กระชายหั่น 6.ใบมะกรูด 7.พริกสด
8. ใบมะกรูด 9.ตะไคร้ 10.ใบแมงลัก 11.ใบตองสำหรับห่อ
เรามาเริ่มทำเมนูห่อหมกหน่อไม้กันเลยเริ่มจากนำหน่อไม้มาปลอกเปลือกแล้วนำไปต้มจนสุก

ร้านอาหารอีสาน บางร้านก็ได้นำหน่อไม้ที่ต้มสุกแล้วไปแช่น้ำเย็นเพื่อให้ความกรอบจากนั้นนำไปหั่นทิ้งไว้ ไปโขลกหอมแดง ตะไคร้ พริกสด  กระชาย เข้าด้วยให้ให้ละเอียด นำหมูสามชั้นมาหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆปรุงรสด้วยน้ำปลา ปลุกให้เข้ากันและนำใบมะกรูดหั่นเป็นฝอยใส่ใบแมงลักคลุกให้เข้ากันนำใบตองไปเช็ดให้สะอาดจากนั้นนำหน่อไม้ที่คลุกใส่เครื่องเรียบร้อยแล้วนำมาห่อหมกให้เรียบร้อยจากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 20-30 นาที จนสุกพร้อมเสิร์ฟความอร่อยได้เลย

วันนี้ ร้านอาหารอีสาน ที่จังหวัดอุบลราชธานีได้มีร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีความอร่อยและเป็นเอกลักษณ์ชื่อร้านอาหารเดอะโฮมอุบลบรรยากาศดีเยี่ยมสำหรับใครที่ไปท่องเที่ยวที่จังหวัดอุบลราชธานีก็อย่าลืมแวะได้บอกเลยว่าแซ่บถูกใจได้รสชาติอีสานแท้ๆ ทานอิ่มแล้วจังหวัดอุบลราชธานีได้มี
สถานที่เที่ยวอุบลราชธานี ที่สวยงามมากมายรอให้คุณได้ไปชื่นชมธรรมชาติพักผ่อนหาความสุขได้ที่นี่ จังหวัดอุบลราชธานี

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อิ่มอร่อยกับร้านอาหารอีสานเดอะโฮมกับเมนูเกี้ยวกุ้งทอดกรอบ

วันนี้บุกร้านอาหารอีสานเดอะโฮมอุบลราชธานีเป็นร้านอาหารสไตร์อีสานเมนูอีสานต้นตำรับที่อร่อยถูกปากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่จังหวัดอุบลราชธานีมีอาหารแนะนำมากมายพร้อมกับบรรยากาศสุดแสนประทับใจดื่มด่ำกับเสียงดนตรีห้องร้องคาราโอเกะห้องจัดเลี้ยงครบทุกรสชาตที่ร้านอาหารอีสานเดอะโฮมวันนี้จะมารีวิวเมนูอาหารที่บอกเลยว่าเป็นเมนูที่อร่อยกรอบเมนูเกี้ยวกุ้งทอดกรอบพร้อมน้ำจิ้มเริศรสที่เข้ากันได้อย่างดี
สำหรับเมนูเกี้ยวกุ้งทอดกรอบของร้านอาหารอีสานเดอะโฮมนี้ทางร้านได้นำแผ่นเกี้ยวที่มีคุณภาพแผ่นหนานุ่มนำกุ้งตัวโตมาห่อไส้และมีเครื่องเทศต่างๆจากนั้นนำไปทอดจนกรอบเหลื่องสีทองน่ารับประทานอย่างมากเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสูตรเฉพาะในราคาจานนี้ไม่แพงอร่อยคุ้มแน่นอนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาแวะรับประทานอาหารร้านเดอะโฮมแล้วยังมีสถานที่เที่ยวอุบลราชธานีอีกมากมายที่ให้คุณได้ไปชมความสวยงามของจังหวัดอุบลราชธานี

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

รีวิวร้านอาหารอีสานกับเมูก้อยคอหมูย่าง

ก้อยคอหมูย่าง

วันนี้มารีวิวเมนูจากร้านอาหารอีสานที่หลายคนติดใจในรสชาติที่จัดจ้านแซ่บจนต้องบอกต่อเมนูนี้มีชื่อว่าก้อยคอหมูย่างได้ยินชื่อแล้วหิวขึ้นมาทันทีเมนูก้อยคอหมูย่างก็จะคล้ายๆลาบนั้นเองเป็นอาหารอีสานซึ่งจะนำเนื้อสัตว์ต่างๆมาทำเมนูซึ่งมีหลายเมนูเช่น ก้อยเนื้อหมู ก้อยเนื้อวัว ก้อยกุ้ง ก้อยกระปลอม ก้อยไข่มดแดง ก้อยปลา อื่นๆอีกมากมายที่ชาวอีสานได้คิดเมนูนี้ขึ้นมาแต่การก้อยนั้นจะเป็นแนวดิบๆสมัยก่อนนั้นกินได้ไม่มีพิษภัยอะไรแต่เดี๋ยวนี้ควรระวังการกินดิบๆจะเป็นผลเสียต่อร่างกายดังนั้นวันนี้จึงเราจะประยุกต์ในการทำก้อยแบบสุกและดีต่อสุขภาพแถมอร่อยถูกหลักอนามัยกับเมนูก้อยคอหมูย่างสูตรนี้นำมาจากร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่งที่อยู่จังหวัดอุบลราชธานีชื่อร้านเดอะโฮมอุบล
เป็นร้านอาหารสไตร์อีสานที่ขึ้นชื่อในจังหวัดอุบลราชธานีมีหลากหลายเมนูพร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศเสียงเพลงมีห้องคาราโอเกะที่รองรับลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยมและวันนี้ก็ได้นำสูตรอาหารเมนูก้อยคอหมูย่างมารีวิววิธีการทำและสำหรับพ่อครัวมือใหม่สามารถทำตามได้ตามขั้นตอนเลยนะครับ
ร้านอาหารอีสานเดอะโฮมกับสูตรก้อยคอหมูย่างขั้นตอนแรกเตรียมวัตถุดิบในการทำ
1.คอหมูย่าง 2.น้ำปลา 3.พริกป่นคั่ว 4.น้ำมะนาว 5.ผักชี ต้นหอม 6.ใบมะกรูดทอด 7.หอมแดง 8.ข้าวคั่ว  9.ใบสาระแหน่

ขั้นตอนการทำก้อยคอหมูย่าง
1.ให้ย่างคอหมูย่างด้วยเตาถ่านจะทำมีกลิ่นหอมรสชาติดีก่อนนำมาย่างควรหมักเนื้อส่วนคอหมูด้วยกระเทียมโขลกกับพริกไทยแล้วเทซีอิ๊วขาวและน้ำตาลปิ๊บนิดหน่อยผสมนวดให้เข้าเนื้อหมักทิ้งไว้30นาทีจากนั้นจึงนำไปย่าง
2.เมื่อคอหมูย่างสุกแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นบางๆแล้วพักใส่ถ้วยไว้จากนั้นให้เรานำพริกป่นคั่ว ข้าวคั่ว น้ำปลา น้ำมะนาวคนให้เข้ากันแล้วชิมถ้ารสชาติพอดีแล้วให้นำ ผักซี ต้นหอมซอย ใบมะกรูดทอด หอมแดงหั่นซอย ใบสาระแหน่ เทลงถ้วยแล้วคนให้เข้ากันอีกครั้งพร้อมเสิร์ฟเมนูก้อยคอหมูย่างทานพร้อมข้าวเหนียวบอกเลยว่าแซ่บจนติดใจในรสชาติอาหารอีสานอย่างแน่นอนสามารถนำไปประยุกต์เพิ่มเติมได้ไม่ว่ากันบทความหน้าจะมีอาหารแนะนำที่อร่อยมาแนะนำรีวิววิธีการทำให้อีกส่วนวันนี้ขอให้อร่อยในการกินอาหารสูตรจากร้านอาหารอีสานเดอะโฮมที่อยู่จังหวัดอุบลแวะมาชิมได้
ละมีสถานที่เที่ยวอุบลราชธานีสวยๆอีกมากมาย

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลาบหมูรสอีสานแซ่บแท้แน่นอนสูตรเด็ดจากร้านอาหารอีสาน

ลาบหมูอีสาน


พูดถึงร้านอาหารอีสานมีเมนูที่ขาดไม่ได้นั้นคือ"ลาบหมูอีสาน"เป็นเมนูที่แซ่บมีรสชาติที่จัดจ้านแล้วยังถูกปากชาวอีสานอีกมากมายทานกับผักสดเช่น แตงกวา ถั่วฟักยาว รสชาติเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยมแต่ลาบหมูอีสานก็มีหลากหลายสูตรที่ร้านอาหารอีสานแต่ละที่ได้คิดค้นสูตรต่างๆขึ้นมาจึงทำให้ลาบอีสานได้มีเมนูที่แปลกใหม่แต่รสชาติยังคงเอกลักษณ์เหมือนเดิม เช่นลาบหมูทอด ลาบหมูน้ำตก ลาบหมูแหนมคลุก และยังมีหลายผลิตภัณฑ์ที่นำรสชาติของลาบไปปรุงแต่งแต่หลายคนที่หลงไหลในรสชาติของลาบหมูอีสานวันนี้จะพาพ่อครัวมือใหม่มาลองทำเมนูนี้บอกเลยว่าง่ายไม่ยากอย่างที่คิดเริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบในการทำลาบหมูอีสานมีวัตถุดิบดังนี้
1.หมูสับ 2.หนังหมูหั่น  3.ตับหมูหั่น 4.ใบสาระแหน่ 5.น้ำมะนาว 6.น้ำปลา 7.ข้าวคั่ว 8.พริกแห้งบด 9.ใบหอมซอย 10.ผักซีฝรั่งซอย 11.น้ำตาล 12.หอมแดงซอย 13.แตงกวา 14.ถั่วฝักยาว
 เมือเตรียมวัตถุดิบครบเรียบร้อยแล้วจากนั้นให้เริ่มขั้นตอนการทำลาบหมูอีสาน
ขั้นตอนแรกในการทำลาบหมูอีสาน
1.ต้มหมูสับ ตับหมูหั่นและหนังหมูหั่นให้สุกจากนั้นนำมาพักใส่ถ้วยไว้
2.จากนั้นปรุงรสลาบด้วยเทน้ำปลา ข้าวคั่ว น้ำตาล พริกแห้งบดผสมคนกันให้เข้าเนื้อแล้วบีบน้ำมะนาว ใบหอยซอย ผักซีฝรั่งซอย หอมแดงซอย ใบสาระแหน่ คนให้เข้ากันอีกครั้งพร้อมชิมรสชาติจนกว่าจะพอใจสามารถนำไปประยุกต์ได้ไม่ว่ากันครับ
3.เสิร์ฟใส่จานพร้อมหั่นแตงกวาและถั่วฝักยาวตกแต่งให้สวยงาม
เมนูร้านอาหารอีสานลาบหมูอีสานนี้ยังไงก็ขอให้ทดลองทำเมนูนี้ดูนะครับหวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ในการทำอาหารและบทความหน้าจะมีอาหารแนะนำมารีวิวกันรับลองว่าต้องถูกใจนักชิมชาวอีสานอย่างแน่นอนสำหรับเมนูลาบหมูอีสานมีร้านอาหารที่ทำอร่อยนั้นคือร้านเดอะโฮมอุบลราชธานียังไงก็ว่าลืมแวะไปรับประทานกันนะครับและมีสถานที่เที่ยวอุบลราชธานี

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ไข่เจียวกรอบใส่ไข่มดแดงพร้อมแจ่วอีสาน




เปิดร้านอาหารอีสาน วันนี้จะมาแนะนำเมนูอาหารสุดแซ่บแสนจะทำง่ายนั้นคือไข่เจียวกรอบใส่ไข่มดแดงพูดถึงเมนูไข่เจียวหลายคนต้องเคยทานเพราะเป็นเมนูง่ายๆที่ใช้เวลาทำไม่มากและอร่อยสามารถทานคู่กับเมนูต่างๆได้อย่างดีเช่น ส้มตำ แจ่วน้ำพริก ยำ ต้มยำ อร่อยเข้ากันทุกเมนู ไข่เจียวจะมีสูตรทอดให้กรอบนั้นหลายคนอาจยังไม่รู้ขั้นตอนการทอดให้กรอบวันนี้จะมาบอกเคล็ดลับง่ายๆในการทอดให้กรอบนอกนุ่มในซึ่งมีหลายวิธีเลย
วิธีแรกการบีบน้ำมะนาว จะได้ไข่ที่ฟูในขณะเจียวไข่แต่ก็จะแฟบลงหลังจากตักขึ้นมา
วิธีที่สองใส่น้ำมันเยอะๆ ซึ่งกรอบและฟูจริงแต่อมน้ำมันไปหน่อย
วิธีที่สามใส่แป้งหรือผงฟูผสมกับไข่ตีคนให้เข้ากันจากนั้นทอดกรอบฟูแน่นอนแต่รสชาติแต่ไม่ใช่เนื้อไข่100%
เราจะทำยังไงให้ไม่มีเงื่อนไขจะทำให้กรอบและฟูนั้นวันนี้จะมาทำเมนูไข่เจียวกรอบใส่ไข่มดแดงพร้อมแจ่วอีสานรับรองสูตรนี้อร่อยเด็ดสามารถทำขายได้เลยขั้นตอนการทำอันดับแรกให้เตรียมวัตถุดิบที่จะมาทำเมนูนี้กันเชื่อว่าร้านอาหารอีสานบ้างร้านต้องเข้ามาดูสูตรนี้อย่างแน่นอนเพราะเป็นอาหารแนะนำสำหรับลูกค้า
วัตถุดิบในการทำไข่เจียวทอดกรอบใส่ไข่มดแดง
1.ไข่ไก่ 3 ฟอง  2.ไข่มดแดง 3.ซีอิ๊วขาว 4.น้ำตาล 5.พริกไทย 6.เนย 7.เกลือ 8.กระเทียมสับละเอียด
 9.นมสด 10.ต้นหอมหั่น
ร้านอาหารอีสานขั้นตอนการทำไข่เจียวกรอบใส่ไข่มดแดง
1.ให้นำไข่มาตีคนให้เข้ากันในถ้วยทั้ง 3 ฟอง จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาล เนย เกลือ กระเทียมสับละเอียด และนมสดนิดหน่อย ตีคนให้เข้ากันประมาณ 5 นาทีจากนั้นนำไข่มดแดงตามด้วยพริกไทยเทลงไปแล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง
2.ตั้งไฟเทน้ำมันพืชให้พอประมาณให้น้ำมันเดือดร้อนพอประมาณแล้วเทไข่ที่เราใส่เครื่องเรียบร้อยแล้วลงไปในกะทะการทอดต้องระวังด้วยนะครับการพลิกไข่ก็ระวังด้วยทอดจนเหลืองกรอบจากนั้นตักใส่จาน
3.โรยหอมหั่นซอยที่หน้าไข่เจียวของเราแค่นี้เราก็ทำเมนูไข่เจียวกรอบใส่ไข่มดแดงเรียบร้อยแล้ว
ต่อไปการทำแจ่วอีสานสูตรจากร้านอาหารอีสานแท้
แจ่วสำหรับทานคู่กับไข่เจียวกรอบไส้ไข่มดแดงสูตรนี้ได้มาจากจังหวัดอุบลราชธานีดั่งเดิมเลยใครที่ว่างๆก็อย่าลืมไปแวะเที่ยวนะครับสถานที่เที่ยวอุบลราชธานี
ขั้นตอนการทำแจ่วอีสาน
1.เตรียมวัตถุดิบ
พริกป่น น้ำตาลปิ๊บ ข้าวคั่ว น้ำมะนาว ข้าวคั่ว น้ำมะนาว น้ำปลา ผักชี หอมแดงซอย
2.ขั้นตอนการทำแจ่วจากร้านอาหารอีสาน
เตรียมถ้วยน้ำจิ้ม ใส่พริกป่น ข้าวคั่ว น้ำตาลปิ๊บผสมให้เข้ากัน ใส่น้ำปลาคนผสมให้เข้ากันอีกครั้งใส่ผักชี หอมแดงซอยพร้อมเสิร์ฟคู่กับไข่เจียวกรอบใส่ไข่มดแดงอร่อยแน่นอน




วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แกงหน่อไม้ใส่ไข่มดแดง

แกงหน่อไม้ใส่ไข่มดแดง    
ร้านอาหารอีสานวันนี้จะมีแนะนำอาหารอีสานที่แสนจะอร่อยถูกปากชาวอีสานแท้ๆนั้นคือแกงหน่อไม้ใส่ไข่มดแดงเป็นเมนูที่มีมาตั้งแต่เนิ่นนานรสชาติเป็นเอกลักษณ์แต่วัตถุดิบในการปรุงแต่งรสชาติจะแตกต่างกันออกไปเช่นจะมีวัตถุดิบที่สามารถเข้ากันกับแกงหน่อไม้ได้ เห็ดโคน ฟักทอง ยอดมะระ แล้วแต่พ่อครัวที่จะนำวัตถุดิบมาปรุงแต่งแต่จะใช้หน่อไม้เป็นวัตถุดิบหลักร้านอาหารอีสานมากมายจะนำหน่อไม้ไปเป็นวัตถุดิบให้อาหารเช่นใส่ ต้มปลา ต้มไก่ ผัดผัก และอื่นๆวันนี้เราจะนำหน่อไม้มาทำแกงสุดแซ่บผสมผสานวัตถุดิบมากมายรับลองว่าจะติดใจกับเมนูวันนี้แกงหน่อไม้ใส่ไข่มดแดงพร้อมวิธีการทำสูตรง่ายเป็นอาหารแนะนำให้นักชิมสามารถทดลองทำตามไปพร้อมๆกันแล้วคุณจะติดใจในรสชาติอาหารอีสานจนต้องตามหาร้านอาหารอีสานเลย
ขั้นตอนการทำแกงหน่อไม้ใส่ไข่มดแดง
เตรียมวัตถุดิบในการทำเมนูแกงหน่อไม้ใส่ไข่มดแดง 1.หน่อไม้หั่น  2.ฟักทอง 3.ไข่มดแดง 4. เห็ดฟาง
5.น้ำคั่นใบหญ้านาง 6.เห็ดขอนขาว 7.ตะไคร้ 8.ใบแมงลัก 9.ชะอม 10.น้ำปลา 11.น้ำตาล 12.พริกสด 13.น้ำปลาร้า
วิธีการทำแกงหน่อไม้ใส่ไข่มดแดง
1.ตำเครื่องปรุงทั้งหมดรวมกันได้แก่ พริกสด ตะไคร้
2.ตั้งหม้อนำน้ำคั่นใบหญ้านางลงพร้อมกับน้ำสะอาดผสมลงเล็กน้อยเมื่อน้ำเดือดใส่ฟักทอง เห็ดขอนขาว เห็ดฟาง และหน่อไม้ลงหม้อต้มทิ้งไว้สักครู่
3.ใส่เครื่องปรุงที่ตำไว้พริกสดกับตะไคร้และใส่น้ำปลา และน้ำปลาร้าน้ำตาลใส่เล็กน้อยลองชิมและเพิ่มรสชาติตามใจชอบได้เลย
4.ใส่ไข่มดแดง ชะอม ปิดฝาหม้อทิ้งไว้สักพักพร้อมเสิร์ฟ
หลายคนอาจมีเทคนิคลับดีๆที่สามารถนำมาประยุกต์กับเมนูนี้ได้ยังไงก็ขอฝากแกงหน่อไม้ใส่ไข่มดแดงไว้ด้วยนะครับขอให้อร่อยในการทำอาหารและมีร้านอาหารเด็ดที่จังหวัดอุบลราชธานีที่ร้านเดอะโฮมยังไงก็อย่าลืมแวะมาชิมได้และพบกับสถานที่เที่ยวอุบลราชธานี