วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับไก่ย่างสมุนไพร

ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะพาไปรู้จักกับวิธีในการทำ "ไก่ย่างสมุนไพร" ให้ได้ทำทานกันที่บ้านง่ายๆ หลายคนเมื่อเอ่ยถึงไก่ย่าง คงจะเบื่อกับรสชาติอาหารเดิมๆ เป็นแน่ ด้วยไก่ย่างสูตรนี้เป็นสูตรสมุนไพรที่สามารถทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เคล็ดลับในการทานไก่ย่างให้อร่อย ก็คือการทานร่วมกันกับแจ่วน้ำจิ้มอีสานรสเด็ด อย่างปลาร้าบอง รับรองได้ว่าทานคู่กับไก่ย่างร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร และยิ่งมีข้าวเหนียวร้อนนึ่งสุกใหม่ๆ ทานร่วมด้วยก็ยิ่งอร่อยลืม ประโยชน์ของเนื้อไก่นั้นนอกจากจะช่วยเสริมสร้างกร้ามเนื้อให้แก่ร่างกายแล้ว แต่เนื้อไก่ยังมีประโยชน์อีกมากมายนอกเหนือจากนี้ อาทิเช่น สามารถต้านทานโรคซึมเศร้าได้ ช่วยลดอาการเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญการทานเนื้อไก่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย ฟังดูอาจจะขัดแย้งกัน เพราะเนื้อไก่เป็นอาหารประเภทโปรตีน แต่ในความเป็นจริงเนื้อไก่มีสารบางชนิดที่ช่วยลดน้ำหนักของกร้ามเนื้อหน้าท้องได้


เมื่อทราบถึงประโยชน์ และเคล็ดไม่ลับในการทานไก่ย่างให้อร่อยแล้ว ต่อมาก็จะพาเพื่อนๆ มาล้วงเคล็ดลับจาก ร้านอาหารอีสาน ในการย่างไก่ให้อร่อยกัน ก่อนอื่นเราต้องไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับการหมักเนื้อไก่กันเสียก่อน ประกอบไปด้วย ตะไคร้ ข่า หอมแดง กระเทียม พริกไทย น้ำมันหอย น้ำมันงา ซีอิ๊วขาว และน้ำผึ้ง เมื่อได้วัตถุดิบครบแล้ว ต่อมาก็มาลงมือทำไก่ย่างสมุนไพรกันได้เลย เริ่มจากนำตะไคร้ ข่า หอมแดง กระเทียม พริกไทย มาโขลกให้ละเอียด แล้วนำไปผสมกับเครื่องปรุงรสอย่าง น้ำมันหอย น้ำมันงา ซีอิ๊วขาว น้ำผึ้ง ก็จะได้น้ำหมักสมุนไพร แล้วนำไปหมักกับไก่ทิ้งค้างคืนไว้ ประมาณ 1 คืน ก็สามารถนำมาย่างทานได้เลย

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับส้มตำแคปหมู

ร้านอาหารอีสาน วันนี้ขอแนะนำ "ส้มตำแคปหมู" สุดยอดเมนูส้มตำอีสานที่หาทานได้ยากมากๆ ซึ่งส้มตำแคปหมูของแต่ละจังหวัดนั้นก็จะมีลักษณะรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ทั้งลักษณะของเนื้อแคปหมูที่ทางร้านเลือกใช้ก็แตกต่างกันด้วย แต่โดยปกติแคปหมูที่จะนำมาเป็นวัตถุดิบเสริมสำหรับส้มตำนั้นจะต้องมีลักษณะที่เหนียวแต่กรอบ เพราะถ้าหากทางร้านเลือกใช้แคปหมูธรรมดาทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งเป็นแคปหมูที่มีความเปราะบาง เมื่อนำมาตำผสมกับส้มตำ แคปหมูจะดูดเอาน้ำส้มตำไป ทำให้เวลาทานเนื้อแคปหมูจะเหนียมไม่อร่อย


ขั้นตอนในการทำ "ส้มตำแคปหมู" ของทาง ร้านอาหารอีสาน นั้นก็มีเคล็ดไม่ลับที่อยากบอกต่อ ก่อนอื่นที่จะมาลงมือทำส้มตำแคปหมูกันนั้น ต้องมารู้จักกับวัตถุดิบในการทำส้มตำกันเสียก่อน ซึ่งประกอบไปด้วย มะละกอ ถั่วฝักยาว น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกสด กระเทียมสด มะกอก น้ำปลา น้ำปลาร้า และน้ำมะขามเปียก เมื่อเตรียมวัตถุดิบสำหรับตำส้มตำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาลงมือทำได้เลย เริ่มจากสับมะละกอให้เป็นเส้นๆ เตรียมไว้ จากนั้นโขลกกระเทียม และพริกขี้หนูสด พอให้ละเอียดคลุกเคล้ากัน จากนั้นใส่มะเขือเทศ มะกอก มะนาว น้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ปรุงรสจนอร่อย แล้วใส่เส้นมะละกอ พร้อมถั่วฝักยาวลงไป ตำคลุกเคล้าจนเส้นมะละกอเข้ากับเครื่องปรุงรส ก่อนตักเสิร์ฟให้ใส่แคปหมูลงไปคลุกเคล้ากับส้มตำ เพียงเท่านี้ก็จะได้ส้มตำแคปหมูแสนอร่อยทาน

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน สามชัยไก่ย่าง


ร้านอาหารอีสาน สามชัยไก่ย่าง เป็นร้านขายส้มตำ ไก่ย่าง เปิดมานานกว่า 15 ปี ที่ใหญ่และทันสมัย ร้านตั้งอยู่ในเมืองอุบลราชธานี ถนนพโลชัย ห่างจากเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี 300 เมตร มีรูปปั้นไก่ตัวใหญ่ๆ เป็นสัญลักษณ์เด่นเป็นสง่าตั้งอยู่หน้าร้าน ให้บริการทั้งเป็นแบบห้องแอร์ และลานข้างนอกที่กว้างขวาง บรรยากาศร่มรื่น สำหรับคณะทัวร์ สามารถโทรสั่งจองล่วงหน้าได้ มีให้อาหารเลือกทั้งแบบเมนูปกติ หรือจะสั่งเป็นชุดเซตอาหารก็ได้เช่นกัน

เมื่อมาถึงจังหวัดอุบลราชธานี เมนูอาหาร ที่ทุกคนไม่ควรพลาด คือ ส้มตำ ไก่ย่าง ร้านสามชัยไก่ย่าง ไม่ได้มีแค่เมนูส้มตำ ยังเป็น ร้านอาหารอีสาน ที่ให้บริการเมนูอาหารต่างๆ ให้เลือกทานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูปลา เช่น ต้มแซบปลาคังรสเด็ด ปลาคังสดๆ จากแม่น้ำโขง ที่ต้มในน้ำเดือด พร้อมเครื่องเทศนานาชนิด โรยหน้าด้วยใบโหรพาให้กลิ่นหอมชวนรับประทาน และปลาโบราณสามชัยไก่ย่าง ที่เน้นปลาช่อนนาคัดอย่างดี ให้ได้เนื้อปลาหอมหวาน นำมาทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ ได้เนื้อปลาที่กรอบนอกนุ่มใน คลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศ และพริกเผา เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยสมุนไพร เครื่องเทศและผักสดนานาชนิดที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เมนูนี้ทานได้ทุกวัย นอกจากนี้เมนูแนะนำของทางร้านที่ไม่ควรพลาด คือ ไก่ย่างโปเกม่อน ไก่ทอดชินจัง ส้มตำไข่เค็ม ตำแหลก ต้มแซบไก่บ้าน แกงป่าไก่บ้าน ต้มยำไก่บ้านใบมะขามอ่อน อุ๊หน่อไม้พุงปลากะทิสด และที่ขาดไม่ได้ คือ ไก่ย่าง ที่หนังกรอบ ที่ร้านจะย่างให้สุกถึงเนื้อใน ข้างในนุ่มฉ่ำน้ำ มีให้เลือกทั้งส่วนอก หรือส่วนขา ถ้าใครชอบแบบมีมันต้องเลือกสั่งแบบเป็นขา ไก่ครึ่งตัวราคาจะอยู่ที่ 70 บาท เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้ม ซึ่งจะมีน้ำจิ้มให้สองแบบ เป็นน้ำจิ้มแจ่ว กับน้ำจิ้ม สามรส ทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ พร้อมส้มตำรสเด็ด

ร้านอาหารอีสาน สามชัยไก่ย่าง สถานที่สะอาด ที่จอดรถกว้างขวาง พนักงานบริการดี และอาหารที่สั่งได้รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารอีสาน รสแซ่บ สามารถแวะมาทานกันได้ที่ ร้านสามชัยไก่ย่าง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับน้ำพริกกะปิ


ร้านอาหารอีสาน ขอแนะนำวิธีในการทำน้ำพริกกะปิ รับรองว่าอร่อยไม่แพ้เจ้าอร่อยแน่นอน และสำหรับใครที่เบื่อทานผักลวกกับน้ำพริกปลาทูแล้ว แนะนำต้องลองน้ำพริกกะปิทานคู่กับผักลวก รับรองอร่อยอย่างบอกใคร ยิ่งถ้าได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แล้วคุณจะติดใจในรสสัมผัสแน่นอน

วันนี้เรามีเคล็ดลับดีดีในการทำน้ำพริกกะปิมาแนะนำให้ได้ลองทำทานกัน เรา ร้านอาหารอีสาน มีทริคพิเศษเล็กน้อยมาฝากให้ได้ลองทำทานกัน น้ำพริกกะปิจะอร่อยขึ้นอยู่กับทั้งตัวกะปิเอง และเครื่องเคียงผสมที่ต้องสดใหม่ จึงจะทำให้น้ำพริกกะปิมีกลิ่นหอม รสชาติอรอ่ย ขั้นตอนในการทำน้ำพริกกะปิเริ่มจากการนำกะปิห่อใส่ใบตองแล้วนำไปเผา วิธีนี้จะช่วยให้กะปิมีกลิ่นหอมที่ดี จากนั้นให้นำกะปิ กระเทียมไปโขลกรวมกับพริกขี้หนูสวน ซึ่งจะให้กลิ่นหอมดีกว่าพริกสดทั่วไป เมื่อโขลกรวมกันจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้เติมน้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาวผสมลงไป เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อม ที่สำคัญห้ามใส่น้ำปลาเป็นอันขาด เนื่องจากตัวกะปิเค็มอยู่แล้ว และการใส่น้ำปลาจะทำให้น้ำพริกกะปิมีกลิ่นคาวไม่น่าทาน เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำพริกกะปิอร่อยๆ ทานกัน

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ ร้านอาหารอีสาน อยากแนะนำในการเก็บรักษาน้ำพริกกะปิไว้ทานภายหลัง ก็คือเมื่อทานไม่หมดต้องนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น เพราะความเย็นจะช่วยรักษาให้น้ำพริกกะปิไม่บูด 



วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ร้านอาหารอีสาน กับหมูแดดเดียว


ร้านอาหารอีสาน กับการทำเนื้อหมูแดดเดียว แดดแรงๆ อย่างเมืองไทยแถบภาคอีสานอย่างบ้านเรา เหมาะจะทำอาหารที่ใช้แสงแดดเป็นอย่างมาก เพราะแสงแดดทางแถบพื้นที่อีสานบ้านเรานั้นช่างแสนร้อน ถ้านำเนื้อหมูไปตากแดดแค่เพียงแดดเดียวก็น่าจะสามารถนำมาประกอบอาหารได้เลย ซึ่งเนื้อหมูแดดเดียวนั้นมีวิธีขั้นตอนในการทำง่ายมาก เพียงแค่บ้านท่านมีเนื้อหมูติดตู้เย็น แล้วอยากนำมาแปลรูปให้อาหารสามารถอยู่ได้นานขึ้น วันนี้เรามีเมนูหมูแดดเดียวมาแนะนำให้ลองฝึกหัดทำทานกัน


ขั้นตอนในการทำหมูแดดเดียวฉบับ ร้านอาหารอีสาน สไตล์อีสานบ้านเรา โดยอันดับแรกต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับหมักเนื้อหมูกันเสียก่อน ประกอบไปด้วยเนื้อหมู ข้าวเหนียม กระเทียมโขลกละเอียด เกลือป่น น้ำตาลทราย น้ำมันหอย และเมื่อเราจัดเตรียมวัตถุดิบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเราก็มาเริ่มลงมือทำกันได้เลย เริ่มจากนำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาดแล้วหั่นให้เป็นชิ้นๆ จากนั้นคลุกเนื้อกับกระเทียมโขลก เกลือป่น น้ำตาลทราย และน้ำมันหอยจาเข้ากัน สำหรับในขั้นตอนนี้หากใครที่ต้องการให้เนื้อแดดเดียวที่ได้ออกมามีรสจัด ให้เติมเกลือป่น และน้ำตาลในปริมาณที่มากหน่อย หลังจากผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันเรียบร้อยแล้ว หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงนำข้าวเหนียวมาคลุกกับเนื้อหมูก่อนนำไปตากแดด


หลักการตากเนื้อในการถนอมอาหารของ ร้านอาหารอีสาน ก็คือ ตากจนเนื้อแห้ง เนื่องจากหากเนื้อที่นำไปตากแห้งไม่มากพอ เมื่อนำมาเก็บไว้จะทำให้เนื้อขึ้นราได้ และเมื่อเนื้อแห้งจนเป็นที่ต้องการเรียบร้อยแล้วก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้เลย หมูแดดเดียวทอดกรอบๆ นำมาทานกับข้าวเหนียวนึ่งสุกร้อนๆ เป็นอะไรที่ทานเข้ากันเป็นอย่างมาก





วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทำน้ำพริกปลาทูง่ายๆ กับ ร้านอาหารอีสาน


ร้านอาหารอีสาน ขอแนะนำวิธีในการทำเมนูน้ำพริกไทยๆ อย่าง "น้ำพริกปลาทู" มาฝากกัน ซึ่งน้ำพริกปลาทู้นั้นเป็นน้ำพริกที่ชาวบ้านในสมัยก่อนได้ดัดแปลง นำเอาปลาทูมาทำน้ำพริกเพื่อความไม่จำเจ และได้กลายมาเป็นเมนูน้ำพริกที่อร่อยแล้วบอกปากต่อปาก การทานน้ำพริกคู่กับผักสดนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพ ยังช่วยในเรื่องของระบบขับของร่างกายอีกด้วย การทานผักสดนั้นจะได้วิตามินนานาชนิดอย่างครบถ้วนมากกว่าการทานผักที่นำไปผ่านความร้อน เนื่องจากวิตามินนั้นสามารถสลายตัวในความร้อนได้เป็นอย่างดี


ขั้นตอนในการทำน้ำพริกปลาทู โดยอันดับแรกนั้นเราต้องมีวัตถุดิบหลักอย่างปลาทูเสียก่อน ร้านอาหารอีสาน ได้เลือกใช้ปลาทูที่สดใหม่ เนื่องจากหากใช้ปลาทูที่เก็บค้างคืนไว้หลายวันแล้ว อาจจะทำให้น้ำพริกที่เราทำเสร็จมีกลิ่นเหม็นได้ ที่สำคัญเราอาจเก็บน้ำพริกไว้ทานคราวหลังได้ไม่นานอีกด้วย และเมื่อเราเลือกซื้อปลาทูได้แล้ว ต่อมาก็มาถึงขั้นตอนของการย่างปลาทู ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ปลาทูมีกลิ่นหอมมากกว่าการนำไปทอด และเมื่อย่างปลาทูจนเหลืองได้ที่แล้วก็ทำการแกะเอาเนื้อปลาทูเตรียมไว้


เมื่อเตรียมเนื้อปลาทูเสร็จแล้ว ต่อมาก็ทำการคั่วพริกสด หอม และกระเทียม แล้วนำไปโขลกรวมกับเนื้อปลาทูที่เตรียมไว้ พร้อมทั้งปรุงรสด้วยมะนาว และน้ำปลาให้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำพริกปลาทูอร่อยๆ ไว้ทานกับผักสด



วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อิ่มอร่อยกับ ร้านอาหารอีสาน ลาบหมูทอด

อิ่มอร่อยไปกับอาหารอีสาน จาก ร้านอาหารอีสาน TheHome อุบล "ลาบหมูทอด" ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่สามารถทำทานได้เองที่บ้านง่ายๆ ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน ซึ่งวิธีในการทำลาบหมูทอดได้แก่ ขั้นแรกให้นำหมูมาสับให้ละเอียดแล้วนำไปลวกในน้ำเดือดจัดจนสุก จากนั้นเมื่อหมูสุกแล้วนำมาคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงรสตามใจชอบอย่างน้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว ให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม แล้วเติมแป้งผสมคลุกเคล้าเข้าไปเพื่อให้เนื้อหมูที่สุกแล้วจับตัวกันเป็นก้อน นำหมูมาปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก เนื่องจากหากปั้นเนื้อหมูให้มีขนาดใหญ่มากจนเกินไป เนื้อหมูด้านนอกจะไหม้ก่อนที่เนื้อหมูด้านในจะสุก จากนั้นตั้งกะทะโดยใช้น้ำมันปริมาณที่มาก รอจนกว่าน้ำมันจะร้อนจัดจึงใส่หมูที่ปั้นไว้ลงไป เมื่อเนื้อหมูเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลือง ให้ตักขึ้นพักไว้ในตระแกงเพื่อให้สะเด็ดน้ำมัน เพียงเท่านี้ก็จะได้หมูทอดอร่อยๆ ทานหนึ่งจาน

ร้านอาหารอีสาน มีเคล็ดลับดีๆ ในการทานลาบหมูทอดให้อร่อยมาฝากกัน นั่นก็คือการทานร่วมกับผักสด เนื่องจากลาบหมูทอดนั้นเป็นเมนูอาหารประเภทของคาว ที่สามารถทานร่วมกันกับผักสดนานาชนิดได้เข้ากันเป็นอย่างดี และนอกจากผักสดจะเป็นเครื่องเคียงเสริมสำหรับใช้ทานร่วมกับลาบหมูทอดแล้ว ผักสดยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย สามารถช่วยทำให้ระบบขับถ่ายภายในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ เนื่องจากในผักสดนั้นต่างก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์ในปริมาณที่มาก ทำให้สามารถขับถ่ายได้สะดวก และง่ายขึ้น นอกจากผักสดจะมีเส้นใยช่วยในเรื่องของการขับถ่ายแล้ว แต่ผักสดก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย