เมื่อได้น้ำซุปสำหรับไว้ทำบะหมี่หมูแดงแล้ว ขั้นตอนต่อมาเราก็สามารถมาลงมือทำอาหารกันได้เลย เริ่มจากการนำเส้นบะหมี่มาลวกในน้ำเดือดจัดพักไว้ แล้วลวกผักเครื่องเคียงเสริมสำหรับไว้ทานกับบะหมี่ใส่ลงไป อาทิ ถั่วงอก หรือผักบุ้ง เป็นต้น เมื่อลวกเส้นบะหมี่และผักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ซอยหมูแดงชิ้นขนาดพอดีทำวางลงบนหน้าบะหมี่ นำไปราดน้ำซุปก็สามารถทานได้เลย ร้านอาหารอีสาน แนะนำให้ใส่หอมซอยก่อนนำไปทาน เพราะต้นหอมจะช่วยให้บะหมี่มีกลิ่นหอมที่ดีขึ้น เวลาทานก็สามารถเลือกปรุงรสได้ตามใจชอบเลย
วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ร้านอาหารอีสาน กับบะหมี่หมูแดง
ร้านอาหารอีสาน จะพาเพื่อนๆ ไปล้วงความลับในการทำ "บะหมี่หมูแดง" ให้อร่อย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับที่อยากบอกต่อ บะหมี่หมูแดงที่อร่อยเคล็ดลับอยู่ที่การต้มน้ำซุปให้ได้ที่ แล้วจึงค่อยนำมาประกอบอาหาร และวิธีในการต้มน้ำซุปให้อร่อยก็ไม่ยากเลย เพื่อนๆ ลองทำตามวิธีการเคล็ดไม่ลับนี้ดู เริ่มจากนำกระดูกหมูมาลวกในน้ำเดือดจัดก่อน 1 น้ำ เพื่อเอาไขมันสัตว์ออก จากนั้นตั้งไฟให้อ่อนๆ ต้มกระดูกหมูพร้อมน้ำ เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนเดือด อย่าคนบ่อย เพราะจะทำให้น้ำซุปขุ่น ไม่ใสน่าทาน ที่สำคัญอย่าลืมคอยตักฟองมันสัตว์ออกด้วย วิธีการนี้จะช่วยให้น้ำซุปทั้งใส และหวานอร่อย เหมาะจะนำมาทำเป็นน้ำซุปน้ำบะหมี่ หรือก๋วยเตี๋ยวทาน
วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ร้านอาหารอีสาน กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา
ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะพาเข้าครัวไปรู้จักกับอาหารทำง่าย แต่มากไปด้วยประโยชน์อย่าง "กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา" ได้ฟังแค่ชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นเมนูที่สามารถทำทานได้ง่ายแค่ไหน เมนูกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา แน่นอนว่าต้องเป็นอาหารที่มีวัตถุดิบหลักอย่างกะหล่ำปลีแน่นอน และเครื่องปรุงสำหรับเมนูนี้ก็ต้องเป็นน้ำปลาด้วยเช่นกัน เมนูจานนี้เหมาะสำหรับใครที่กำลังเบื่อๆ เมนูกะหล่ำปลี ก็ลองหันมาทำอาหารสูตรนี้กันดู รับรองว่าจะติดใจในรสชาติอาหาร
เมื่อเรารู้กันคร่าวๆ แล้วว่าวัตถุดิบหลัก และเครื่องปรุงหลักมีอะไรบ้างแล้ว ต่อมาก็มาล้วงความลับในการทำเมนูอาหารประเภทนี้กันบ้างว่าเค้ามีขั้นตอน หรือเคล็ดไม่ลับอะไรบ้างที่ ร้านอาหารอีสาน ปรุงอาหารประเภทนี้กัน เริ่มจากการนำกะหล่ำปลีไปล้างทำความสะอาด แล้วหั่นผักให้เป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ จากนั้นนำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ ในขั้นนี้สำหรับใครที่ต้องการให้อาหารออกมาน่าตาสวยน่าทานแนะนำให้ใส่น้ำมันในปริมาณที่มากหน่อย แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบทานมันก็ให้ใส่น้ำมันในระดับปกติ
จากนั้นรอให้น้ำมันร้อนจัดจึงใส่กะหล่ำปลีลงไปผัดให้คลุกเคล้ากับน้ำมัน พอวัตถุดิบคลุกเคล้ากับน้ำมันทั่วถึงแล้วให้ใส่น้ำปลาผสมน้ำตาลลงไปผัดต่อ เมื่อเครื่องปรุงรสคลุกเคล้ากันดีแล้วก็สามารถตักขึ้นทานได้ ร้านอาหารอีสาน แนะนำว่าในการทำเมนูอาหารประเภทนี้ ไม่แนะนำให้เติมน้ำ เนื่องจากการผัดผักตัวผักเองเมื่อผัดไปซักพัก ผักจะปล่อยน้ำในตัวของผักออกมา ซึ่งภาษาชาวบ้านเรียกว่าผักสลบ ก็จะได้อาหารสุดน่าทานพร้อมน้ำขลุกขลิก ทานกับข้าวสวยร้อนๆ พอดี
เมื่อเรารู้กันคร่าวๆ แล้วว่าวัตถุดิบหลัก และเครื่องปรุงหลักมีอะไรบ้างแล้ว ต่อมาก็มาล้วงความลับในการทำเมนูอาหารประเภทนี้กันบ้างว่าเค้ามีขั้นตอน หรือเคล็ดไม่ลับอะไรบ้างที่ ร้านอาหารอีสาน ปรุงอาหารประเภทนี้กัน เริ่มจากการนำกะหล่ำปลีไปล้างทำความสะอาด แล้วหั่นผักให้เป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ จากนั้นนำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ ในขั้นนี้สำหรับใครที่ต้องการให้อาหารออกมาน่าตาสวยน่าทานแนะนำให้ใส่น้ำมันในปริมาณที่มากหน่อย แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบทานมันก็ให้ใส่น้ำมันในระดับปกติ
จากนั้นรอให้น้ำมันร้อนจัดจึงใส่กะหล่ำปลีลงไปผัดให้คลุกเคล้ากับน้ำมัน พอวัตถุดิบคลุกเคล้ากับน้ำมันทั่วถึงแล้วให้ใส่น้ำปลาผสมน้ำตาลลงไปผัดต่อ เมื่อเครื่องปรุงรสคลุกเคล้ากันดีแล้วก็สามารถตักขึ้นทานได้ ร้านอาหารอีสาน แนะนำว่าในการทำเมนูอาหารประเภทนี้ ไม่แนะนำให้เติมน้ำ เนื่องจากการผัดผักตัวผักเองเมื่อผัดไปซักพัก ผักจะปล่อยน้ำในตัวของผักออกมา ซึ่งภาษาชาวบ้านเรียกว่าผักสลบ ก็จะได้อาหารสุดน่าทานพร้อมน้ำขลุกขลิก ทานกับข้าวสวยร้อนๆ พอดี
วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ร้านอาหารอีสาน เคล็ดไม่ลับในการต้มไข่
ร้านอาหารอีสาน ภูมิใจนำเสนอเคล็ดไม่ลับในการทำไข่ต้ม ให้ได้ไข่แดงที่สุกเหลืองอร่อยตามความต้องการ ก่อนอื่นเลยต้องมาทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า ไข่ต้มนั้นมีหลากหลายระดับความสุก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์(ไข่แดง) ตามความต้องการ ซึ่งการใช้เวลาในการต้มไข่นานมากแค่ไหน ไข่แดงก็จะยิ่งสุกมากแค่นั้น หรือถ้าหากใช้เวลาในการต้มไข่น้อยแค่ไหน ไข่แดงก็จะยิ่งสุกน้อย หรือแทบไม่สุกเลย และที่สำคัญการต้มไข่มีหลากหลายวิธี ทั้งที่เป็นแบบต้มไข่ในจาน และต้มไข่ทั้งฟอง ซึ่งก็ตามแต่ลักษณะความชอบของบุคคลว่าชอบทานไข่ต้มเป็นฟอง หรือชอบทานไข่ต้มในลักษณะอื่น
ซึ่งการต้มไข่ทั้งสองวิธีต่างก็มีตัวแปรเดียวกัน คือเวลา แต่ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้างในเรื่องของทริคเล็กน้อยในการต้มไข่เป็นฟอง และก็เป็นปัญหาโลกแตกอีกเช่นเคยในการต้มไข่ให้ไม่แตก ร้านอาหารอีสาน มีเคล็ดลับเล็กน้อยในการต้มไข่เป็นฟองไม่ให้แตกมาฝากกัน นั่นคือในการต้มไข่ให้ใส่เกลือป่นผสมลงไปด้วยเล็กน้อย ความเค็มจากเกลือจะช่วยให้เปลือกไข่แข็งแรงขึ้นอีกระดับ ทำให้เวลาน้ำเดือดจัดแล้วไข่ยังไม่สุก เปลือกไข่จะได้ไม่ร้าวแตก
รู้เคล็ดไม่ลับในการต้มไข่ฟองไปแล้ว เราก็จะมาแนะนำวิธีในการต้มไข่ให้ได้ไข่แดงแบบต่างๆ กัน ตามมาดูกันเลย ร้านอาหารอีสาน แนะนำให้จับเวลาในการต้มไข่ เพื่อที่จะได้ไข่แดงในรูปแบบที่เราชอบ เพราะการกะเวลาเอา อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงตามที่ต้องการ ซึ่งถ้าหากอยากได้ไข่ยางมะตูมแนะนำให้ต้มไข่ขณะน้ำเดือดจัดในเวลาระหว่าง 3-7 นาที ในช่วงเวลานี้จะได้ไข่ยางมะตูมสมใจแน่นอน แต่ถ้าชอบทานแบบไข่แดงสุกๆ แนะนำให้ต้มไข่ในขณะน้ำเดือดจัด ตั้งแต่ 9-15 นาทีขึ้นไป ในช่วงเวลานี้จะได้ไข่ต้มแบบไข่แดงสุกๆ อย่างแน่นอน
วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ร้านอาหารอีสาน เคล็ดไม่ลับทอดไข่
ร้านอาหารอีสาน จะพาไปล้วงความลับ เคล็ดไม่ลับของการทอดไข่ให้สวยน่าทาน วิธีทอดไข่ให้สวยเป็นปัญหาโลกแตก ว่าจะทอดยังไงให้สวยน่าทาน แต่วันนี้ปัญหานั้นจะหมดไป เพราะเราจะมาแนะนำวีธีในการทอดไข่ต่างๆ ให้ท่านลองนำเคล็ดไม่ลับนี้ไปใช้ดูบ้าง ก่อนอื่นเลยต้องมาทำความเข้าใจของวิธีในการทอดไข่แต่ละชนิดกันเสียก่อน ซึ่งเราสามารถทอดไข่ได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ การทอดไข่เจียว และการทอดไข่ดาว
เริ่มจากสูตรแรก "การทอดไข่เจียว" ไข่เจียวเป็นอาหารประเภทที่อมน้ำมันมากที่สุด ร้านอาหารอีสาน จึงแนะนำให้ไม่ต้องใส่น้ำมันมากในการทอดไข่ประเภทนี้ แล้วจะทำอย่างไรให้ไข่ฟูสวยน่าทาน และกรอบอร่อย เคล็ดไม่ลับในการทอดไข่ประเภทนี้คือ ในขั้นตอนของการตีไข่ และปรุงรส แนะนำให้ใส่น้ำมะนาวตีผสมลงไปในไข่ด้วย เพราะน้ำมะนาวจะช่วยทำให้ไข่ฟูสวยน่าทาน ที่สำคัญในการตีไข่ต้องตีด้วยความเร็วที่คงที่ และตีให้ไข่ขึ้นฟู ก่อนการลงทอด ส่วนในขั้นตอนของการทอดไข่เจียวนั้น ต้องรอให้น้ำมันร้อนจัด จึงค่อยเทไข่ลงไป เพราะหากทอดในขณะที่น้ำมันยังไม่ร้อนจัด จะทำให้ไข่อมน้ำมันมากกว่าเดิม
อีกสูตรลับจาก ร้านอาหารอีสาน ในการทอดไข่ดาว ก็คือ ไข่ดาวเป็นไข่ประเภทที่ไม่อมน้ำมัน ฉะนั้นในการทอดไข่ประเภทนี้สามารถใช้น้ำมันในการทอดปริมาณที่มากได้ ที่สำคัญการทอดไข่ดาวโดยใช้น้ำมันในปริมาณที่มาก จะทำให้ไข่ดาวสวยน่าทาน ไข่แดงไม่แตก ซึ่งขั้นตอนในการทอดก็คล้ายๆ กับการทอดไข่เจียว นั่นคือทอดในขณะที่น้ำมันร้อนจัด เพียงแค่ใช้ปริมาณน้ำมันที่เยอะกว่าเท่านั้นเอง และเคล็ดลับสำคัญในการทอดไข่ดาวให้สวยคือ ค่อยๆ ตักน้ำมันที่ร้อนจัด ราดลงบนหน้าไข่แดงไปเรื่อยๆ จะทำให้ทั้งไข่แดง และไข่ขาวสุกสวยน่าทานมากยิ่งขึ้น
วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ร้านอาหารอีสาน ยำมะม่วง
ร้านอาหารอีสาน วันนี้จะเพื่อนๆ เข้าครัวไปทำอาหารทานเล่นยอดนิยมทานกัน อย่างเมนู "ยำมะม่วง" สุดโปรดของใครหลายคน มะม่วงเป็นผลไม้ที่สามารถทานได้ทั้งแบบสุก และแบบดิบ อีกทั้งมีมะม่วงพันธุ์เปรี้ยว และหวานให้เลือกทานอีกด้วย โดยส่วนมากมะม่วงที่มีรสเปรี้ยวนั้นจะถูกนำมาทานคู่กับน้ำจิ้มรสแซ่บ หรือนำมายำทาน ก็อร่อยแตกต่างกันออกไป เพราะรสชาติ รวมถึงรสสัมผัสในแต่ละเมนูอร่อยไม่เหมือนกัน เนื่องจากเครื่องปรุงในแต่ละเมนูต่างกัน
ก่อนอื่นเลยเราต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำยำมะม่วงกันเสียก่อน ประกอบไปด้วย มะม่วงเปรี้ยว(ดิบ) ข้าวคั่ว หอมแดงซอย น้ำปลาร้า พริกป่น และน้ำตาล เมื่อเราเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำยำมะม่วงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาเริ่มลงมือทำยำมะม่วงกันได้เลย เริ่มแรกซอยมะม่วงให้เป็นเส้นๆ แล้วนำไปยำในน้ำเกลือเสียก่อน ขั้นตอนนี้เหมาะสำหรับมะม่วงที่เปรี้ยวมาก ร้านอาหารอีสาน แนะนำให้คั้นเอาน้ำเปรี้ยวของมะม่วงออกก่อน ไม่เช่นนั้นยำมะม่วงของท่านอาจจะเปรี้ยวมากจนทานไม่ได้
ก่อนอื่นเลยเราต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำยำมะม่วงกันเสียก่อน ประกอบไปด้วย มะม่วงเปรี้ยว(ดิบ) ข้าวคั่ว หอมแดงซอย น้ำปลาร้า พริกป่น และน้ำตาล เมื่อเราเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำยำมะม่วงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาเริ่มลงมือทำยำมะม่วงกันได้เลย เริ่มแรกซอยมะม่วงให้เป็นเส้นๆ แล้วนำไปยำในน้ำเกลือเสียก่อน ขั้นตอนนี้เหมาะสำหรับมะม่วงที่เปรี้ยวมาก ร้านอาหารอีสาน แนะนำให้คั้นเอาน้ำเปรี้ยวของมะม่วงออกก่อน ไม่เช่นนั้นยำมะม่วงของท่านอาจจะเปรี้ยวมากจนทานไม่ได้
เมื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยำมะม่วงทานแล้ว ก็มาปรุงเครื่องกันได้เลย โดยการนำเส้นมะม่วงที่คั้นเอาน้ำเปรี้ยวออกบางส่วนแล้ว มาคลุกเคล้ากับหอมแดงซอย ข้าวคั่ว น้ำปลาร้า พริกป่น และตาลน้ำ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วชิมดูถ้าได้รสชาติที่พอใจก็สามารถนำไปทานได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะได้ยำมะม่วงอร่อยๆ ไว้ทานที่บ้าน ร้านอาหารอีสาน ไม่แนะนำให้ใส่น้ำปลาในการปรุงรส เพราะเราได้รสเค็มจากน้ำปลาร้าอยู่แล้ว ทั้งนี้การใส่น้ำปลาจะทำให้ยำมะม่วงมีกลิ่นคาวไม่น่าทาน
วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ร้านอาหารอีสาน หลามปลา
ร้านอาหารอีสาน ภูมิใจนำเสนอ "หลามปลา" แสนอร่อย เมนูอีสานน่าทาน โดยหลามเป็นประเภทอาหารที่ทำให้สุกด้วยอุปกรณ์ไม้ไผ่ ซึ่งใช้ส่วนประกอบหลักอย่างเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ เนื้อปลา หรือเนื้อหมู พร้อมปรุงรสด้วยเครื่องแกงรสเผ็ด ไม่นิยมใส่ผัก หรือใส่แต่เฉพาะผักที่มีกลิ่นหอม ใช้น้ำเป็นส่วนประกอบเพียงเล็กน้อย เครื่องปรุงรสที่ขาดไม่ได้เลย คือน้ำปลาร้า ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วบรรจุใส่เข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ นำไปเผาไฟ จะได้สุดยอดอาหารอันโอชะ ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาล้วงความลับ เคล็ดไม่ลับในการทำหลามปลาช่อนจาก ร้านอาหารอีสาน กัน แต่ก่อนอื่นที่เราจะมาเริ่มลงมือทำหลามไอ้ช่อนกัน เราต้องมาจัดเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหารกันเสียก่อน ประกอบไปด้วย กระบอกไม้ไผ่สด เนื้อปลาช่อน ใบแมงลัก เครื่องพริกแกงลาว น้ำปลา น้ำปลาร้า ผักชีลาว ใบมะกรูด พริกขี้หนู ใบตอง และเมื่อเราจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำหลามไอ้ช่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราก็จะมาเริ่มลงมือทำอาหารกันได้เลย
ขั้นแรกน้ำปลามาล้างทำความสะอาด แล้วหั่นให้เป็นชิ้นๆ พอดีคำ หรือจะหั่นเป็นแว่นความลักษณะของตัวปลาเพื่อความสวยงาม จากนั้นเคล้าเนื้อปลากับเครื่องพริกแกงลาวให้เข้ากัน ใส่ใบแมงลัก ใบมะกรูด ผักชีลาว และพริกขี้หนู ปรุงรสด้วย น้ำปลาร้า และน้ำปลา นำส่วนผสมใส่เข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ อุดปลายกระบอกไม้ไผ่ด้วยใบตอง นำไปเผาจนเนื้อปลาสุก เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย หรือข้าวเหนียวร้อนๆ ทานคู่กัน อร่อยลืมจนต้องอยากทานซ้ำ
ร้านอาหารอีสาน มีเคล็ดไม่ลับในการทานหลามไอ้ช่อน มาฝากเพื่อนๆ ชาวรักสุขภาพกัน โดยการทานหลามไอ้ช่วนคู่กับผัดสด อย่างผัดกาดหิ่น อร่อยคู่กันอย่างลงตัว ความหิ่นของผักจะสามารถดับกลิ่นคาวของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ทานอาหารได้มาขึ้น ที่สำคัญยังส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายของร่างกายอีกด้วย เพราะนอกจากจะได้ประโยชน์จากการทานเนื้อปลาแล้ว ยังได้ไฟเบอร์จากผักสดที่ทานคู่กันอีกด้วย อร่อยแถมอุดมไปด้วยประโยชน์มากมายขนาดนี้ เพื่อนๆ อย่าลืมลิ้มรสชาติหลามไอ้ช่อนกันนะคะ
วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ร้านอาหารอีสาน ยำแหนมสด
ร้านอาหารอีสาน "ยำแหนมสด" สุดยอดเมนูอาหารอีสานรสเด็ดจาก ร้านอาหาร ที่หาทานกันได้เฉพาะทางแถบภาคอีสานเท่านั้น โดยมีวัตถุดิบหลักอย่างแหนมสดเป็นพระเอกสำหรับเมนู เมนูอีสานจานนี้เหมาะสำหรับท่านที่ชอบทานแหนมสดเป็นชีวิตจิตใจ แล้วเกิดเบื่อในการทานรูปแบบธรรมดา ยำแหนมสดจานนี้สามารถช่วยท่านได้ โดยการนำมายำผสมเข้ากับน้ำยำรสเด็ดที่เราคุ้นเคย จะได้รสชาติอาหารที่แปลกใหม่ อร่อยเข้ากันอย่างลงตัว
ยำแหนมสดแบบฉบับสาวอีสานอุบล จะพาทุกท่านไปล้วงความลับสูตรเด็ดจาก ร้านอาหารอีสาน ให้ได้ลองทำทานกันที่บ้านง่ายๆ แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำยำแหนมสดกันเสียก่อน ซึ่งประกอบไปด้วย แหนมสด หอมหัวใหญ่ซอย ต้นหอม ผักชี พริกสดหั่น น้ำมะนาว น้ำกระเทียมดอง น้ำปลา ถั่วลิสงคั่ว ขิงอ่อนหั่นฝอย พริกขี้หนูแห้งทอด ใบสาระแหน่ ผักกาดหอม ผัดกาดขาว เมื่อทำความรู้จักกับวัตถุดิบไปเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาเรียนรู้ถึงสูตรลับในการปรุงอาหารกัน เริ่มจาก หั่นแหนมสดให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ (หากต้องการทานแบบสดให้นำไปลวกในน้ำเดือดจัด แต่สำหรับท่านที่ต้องการทานสด ก็สามารถนำมาปรุงอาหารได้เลย) จากนัั้นก็มาเตรียมน้ำยำโดยผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำกระเทียมดอง พริกขี้หนูซอย ให้เข้ากัน ถ้าชอบทานน้ำยำแบบหวานในขั้นตอนนี้ให้ผสมน้ำตาลเพิ่มเข้าไปด้วย เมื่อเตรียมน้ำยำเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นำแหนมมาคลุกเคล้าผสมกับน้ำยำที่ปรุงเสร็จแล้ว เติมหอมหัวใหญ่ซอย ต้นหอม ผักชี ขิงอ่อน ถั่วลิสงคั่วลงไปคลุกเคล้าให้น้ำยำผสมทั่ววัตถุดิบเสริม เพียงเท่านี้ก็จะได้ยำแหนมสดอร่อยๆ ไว้ทานที่บ้านกันแล้ว จัดเสิร์ฟพร้อมผักสดอย่างใบสาระแหน่ ผักกาดหอม ผัดกาดขาว ทานคู่กันอร่อยอย่าบอกใคร
ร้านอาหารอีสาน ภูมิใจนำเสนอเคล็ดลับในการทำอาหารให้เพื่อนๆ ได้อ่าน และทดลองทำทานกันที่บ้านง่ายๆ ทั้งนี้เคล็ดลับที่เราพาเพื่อนๆ ไปล้วงความลับมาสามารถดัดแปลง และเปลี่ยนรสชาติไปตามความต้องการของผู้ปรุงอาหารได้ อีกหนึ่งเคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่อยากบอกต่อ นั่นคือ ควรทานอาหารที่รสชาติพอดีทาน ไม่ควรทานรสชาติที่จัดจนเกินไป เพราะจะทำให้ระบบเผาพลาญของร่างกายทำงานผิดพลาด ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)