วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

ร้านอาหารอีสาน ก้อยหอยเชอร์รี่




ร้านอาหารอีสาน เมนูในวันนี้อาจจะดูไม่คุ้นไปซะหน่อยนึง ร้านอาหาร ก็ไม่มีขายเพราะหลายๆคนคงยังไม่เคยเห็นและแทบไม่เคยได้ยินกันเลย นั่นก็คือ "หอยเชอร์รี่" หลายคนงง ? หอยเชอร์รี่ คืออะไร ? มันคือหอยน้ำจืดชนิดหนึ่ง พบได้ทุกภูมิภาคตามท้องทุ่งนาทั่วไป และวันนี้จะพาไปพบกับเมนูสุดฮิตของชาวอีสานอีกเมนู ที่บอกได้คำเดียวว่า แซบอีหลี

หอยเชอร์รี่ เป็นเมนูอาหารที่ชาวอีสานดัดแปลงได้มากมาย หอยเชอร์รี่นั้นมีพิษด้วยหากจะนำมาประกอบอาหารนั้น ควรจะทำอย่างถูกหลักและถูกวิธี เนื้อกรุบๆคล้ายๆเนื้อเห็ด ต้องไปต้มในน้ำเกลือเล็กน้อยให้สุก พอสุกได้ที่ก็นำเนื้อหอยไปหั่นเป็นชิ้นๆ ผักในการทำก้อยก็จะมี หอมแดง, ผักชีฝรั่ง, ต้นหอม, ใบสะระแหน่, ผักชี หั่นผักบางๆ แล้วนำไปคลุกผสมกับเนื้อหอยเชอร์รี่ที่หั่นเตรียมไว้แล้ว เติมข้าวคั่ว ปรุงรสด้วย พริกบ่น น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว และอูมามิเล็กน้อยปรุงตามใจชอบ พอได้ก็ตักใส่จานโรยหน้าด้วยใบสะระแหน่เล็กน้อย ทานเคียงกับผักสดต่างๆ

ร้านอาหารอีสาน เนื่องด้วยหอยเชอร์รี่หาง่ายและพบได้ทั่วไป ปัจจุบันจึงคนนิยมทานกันมากขึ้น และเมนูอีสานอื่นๆ ก็มักจะมีหอยเชอร์รี่เป็นส่วนประกอบด้วย เช่น ตำป่า, ตำทรงเครื่อง และอีกหลากหลายเมนู หากใครที่ไม่เคยทานหอยเชอร์รี่ แนะนำให้ลองทานดู รสชาติอร่อยไม่แพ้เนื้อสัตว์ต่างๆเลย

วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

ร้านอาหารอีสาน กุ้งเต้น



ร้านอาหารอีสาน วันนี้ก็เช่นเคย แต่วันนี้ออกแนว HardCore ไปหน่อย จะพาไปทำอาหารที่หาทานง่าย คือ "กุ้งเต้น" ด้วยความอร่อยและความรวดเร็ว จึงจัดเป็นเมนูที่ได้รับความนิมไปทั่วประเทศ วันนี้จะไปล้วงหลังครัววิธีการทำกุ้งเต้น แบบฉบับแซบๆ ซึ่งใครได้ทานเป็นต้องติดใจเป็นแน่นอน รอช้าอยู่ใยไปกันเลย

ขั้นตอนและวิธีการทำวัตถุดิบหลักๆ ก็มี กุ้งฝอย นำไปล้างน้ำให้สะอาด ควรจะเลือกกุ้งฝอยที่ยังสดๆยังไม่ตาย เพราะเมนูนี้กุ้งต้องเต้น ถ้ากุ้งไม่เต้น แสดงว่าไม่ใช่กุ้งเต้น ? งงหละสิ มาถึงเครื่องเคียง, นำต้นหอม, ผักชีฝรั่ง, ตะใคร้,หอมแดงนำมาซอย เพื่อมาเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำยำ รสชาติน้ำยำควจจะมีรสที่จัดจ้าน โดยปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ข้าวคั่ว พริกบ่น น้ำปลา และผักที่เตรียมไว้ นำไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เมื่อได้น้ำยำแล้ว ก็มาถึงวิธีการผสมกุ้งเต้น นำกุ้งที่เตรียมไว้ เทใส่ในจาน ราดน้ำยำปิดฝาครอบด้วยจานแล้วก็เชคๆ เขย่าๆให้เข้ากัน เหมือนกับเรากำลังเล่นไฮโล พอน้ำยำเข้ากับกุ้งแล้วพร้อมเสริฟได้เลย

ร้านอาหารอีสาน "กุ้งเต้น" ควรจะทานแบบที่กุ้งยังดิ้นกระแด่วๆในจาน ทานคู่กับผักสดต่างๆ พอตักเข้าปากก็ยังดิ้นในปากอีก ด้วยความหวานของกุ้งกับความแซบของน้ำยำจึงอร่อยได้อย่างลงตัว จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเมนู ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าหลายรายต้องสั่งมาทาน ถึงแม้เมนูนี้อาจจะดูโหดร้ายไปบ้าง เพราะต้องใช้กุ้งสดๆแบบยังไม่ตาย แต่ถ้าใครได้เคยลองทานแล้ว รับรองติดใจ เป็นต้องสั่งมาทานอีกรอบอย่างแน่นอน

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

แกงเห็ดเผาะ แบบฉบับ ร้านอาหารอีสาน




ร้านอาหารอีสาน เมนูของวันนี้ เป็นเมนูที่หาทานยากอีกเมนูนึง นั่นก็คือ "แกงเห็ดเผาะ" แกงเห็ดสุดแสนจะคลาสสิค ต้นตำหรับเก่าแก่แห่งเมนูชาวอีสาน บางพื้นที่ก็เรียก เห็ดดินบ้าง เห็ดถอบบ้าง แต่ชาวอุบลเรียกเห็ดเผาะ แต่ละท้องที่ก็ดัดแปลงให้เป็นอาหารชนิดอื่นๆ และวันนี้จะมานำเสนอวิธีการทำเห็ดเผาะมาแกงให้อร่อย ตามฉบับชาวอีสาน

วัตถุดิบ  - เครื่องปรุง
เห็ดเผาะ, น้ำใบย่างนาง, ตะใคร้, พริกสด, ใบแมงลัก, ใบโหระพา, น้ำปลาร้า, น้ำปลา, น้ำตาล, เกลือ
 ขั้นตอนและวิธีการ
1. ล้างเห็ดเผาะให้สะอาด เพราะดินจะเยอะมาก ควรจะเลือกเห็ดที่อ่อนๆ ถ้าเห็ดแก่ไปเนื้อจะหยาบไม่อร่อย
2. นำน้ำใบย่านางไปค้างหม้อต้มให้เดือด นำพริก,ตะใคร้ ไปโคลกให้พอหยาบๆ เติมลงไป
3. พอน้ำเดือดให้เติมเห็ดเผาะลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา เกลือ และน้ำปลาร้าลงไป
4. รอให้เห็ดสุกได้ซักพักปิดไฟ จากนั้นนำใบแมงลักกับใบโหระพาเติมลงไปเป็นอันเสร็จขั้นตอนพร้อมเสริฟ

ร้านอาหารอีสาน ปัจจุบันนี้เห็ดเผาะเป็นเห็ดที่หาพบยาก หาเก็บตามป่าตามดงต่างๆ ไม่ค่อยพบแล้ว แต่ก็ยังมีพ่อค้าแม่ค้าบางรายเพาะพันธ์ขยายพันธ์อยู่บ้าง และยังมีการดัดแปลงแปรรูปถนอมอาหารแบบอัดกระป๋อง แถมยังมีราคาที่แพงหูฉี่ (กิโลละหลายร้อย) สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับพ่อค้าแม่ค้าหัวใสเป็นอย่างมาก

วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

ร้านอาหารอีสาน ต้มไก่บ้าน



ร้านอาหารอีสาน เมนูในวันนี้เป็นเมนูเบสิค ที่ชาวบ้านทางภาคอีสานรู้จักและคุ้นเคยเคยกันดี คือต้มไก่บ้าน ซึ่งต้มไก่บ้านแต่ละท้องที่นั้น ก็มีสูตรและวิธีการที่แตกต่างกันออกไป และวันนี้ก็จะมาสาธิตวิธีการทำต้มไก่บ้านรสชาติแบบเบสิคพื้นฐาน ไม่ว่าเป็นใครก็ทำทานเองที่บ้านได้ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด

การเลือกไก่ที่จะใช้ในการต้มนั้น เป็นไปได้ควรจะเลือกไก่ตัวเมียเพราะเนื้อจะได้ไม่หยาบ หากใช้ไก่ตัวผู้และถ้าเป็นไก่ตีด้วยแล้วละก็ เนื้อจะหยาบมากเคี้ยวแทบไม่ขาดเลยทีเดียว มาถึงการเตรียมเครื่องเคียงกันบ้าง ขั้นแรกก็ให้สับไก่ให้เป็นชิ้นพอคำ จากนั้นต้มน้ำให้เดือดใส่,ข่า,ตะไคร้,ใบมะกรูด,หอมแดงทุบและเกลือ เครื่องเทศเหล่านี้หากอยากให้มีรสชาติที่ดีขึ้นควรนำไปเผาก่อน พอน้ำเริ่มเดือดเครื่องเทศหอมได้ที่แล้ว ก็นำไก่ที่สับเตรียมไว้ไปต้มเคี่ยวจนเนื้อไก่นุ่ม ปรุงรสด้วย น้ำปลา,น้ำมะขามเปียก,มะนาว เพิ่มมะเขือเทศ และพริกสดทุบเติมลงไป รสชาติควรจะกลมกล่อมปนเปรี้ยวนิดๆ พอได้รสชาติที่ต้องการแล้วปิดไฟ โรยหน้าด้วยต้มหอมกับผักชี พร้อมเสริฟ

ร้านอาหารอีสาน สูตรพื้นฐานต้มไก่บ้านนี้ เป็นเมนูที่ง่ายต่อการทำ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็ได้รับประทานแล้ว สิ่งที่สำคัญคือการเคี่ยวไก่ หากใครชอบเนื้อเปื่อยๆหน่อยก็เคี่ยวนานๆ หากใครไม่ชอบก็เคี่ยวแค่พอสุก และเป็นอีกเมนูประจำบ้านที่หลายๆคนต้องเคยทำทานแน่นอน


วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

ร้านอาหารอีสาน แกงขี้เหล็กหนังวัว



ร้านอาหารอีสาน ในวันนี้ก็จะพาไปดูเมนูอาหารอีสานอีกเช่นเคย และวันนี้ก็จะพาไปทำสุดยอดเมนูอาหารพื้นบ้านคือ "แกงขี้เหล็ก" ผักขี้เหล็กนั้น เป็นผักพิ้นบ้าน ที่หาได้ทั่วไปตามไร่นา ทางภาคเหนือและภาคอีสานของประเทศไทย ผักขี้เหล็กเมื่อได้นำมาประกอบอาหารแล้วนั้น อร่อยแบบพิ้นเพบ้านๆขนานแท้เลยเชียวหละ

เมนูวันนี้จะดัดแปลงจากเดิมนิดหน่อย คือ "แกงขี้เหล็กหนังวัว" เพราะการเพิ่มหนังวัว จะทานเข้ากับแกงขี้เหล็กเป็นอย่างมาก เครื่องปรุงและส่วนผสมหลักๆก็จะมี ผักขี้เหล็ก, น้ำใบย่านาง, หนังวัว,ผักชีลาว,ต้นหอม, และพริกแกงที่เราตำเตรียมไว้(พริกข่า,ตะใคร้,หอมแดง,กระเทียม,กะปิ,รากผักชี,เกลือ) ขั้นตอนแรกนำผักขี้เหล็กไปต้มแล้วคลายความขม จากนั้นค้างหม้อต้มน้ำใบย่างนางพอเดือดก็เติมพริงแกงที่เราเตรียมไว้ใส่ลงไป พอได้ที่แล้วก็นำหนังหมูไปต้ม พอหนังหมูเริ่มสุก ก็ใส่พระเอกของเราไปคือใบขี้เหล็ก ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำปลาร้า และน้ำมะขามเปียก พอได้รสชาติตามใจชอบก็ปิดไฟ เติมต้นหอม ผักชีลาว และพริกแห้งลงหม้อ พร้อมเสริฟได้เลย

แกงขี้เหล็ก เป็นเมนูอีสานที่ปัจจุบันหาทานได้ยาก ยังพอหาทานได้ตาม ร้านอาหารอีสาน ทั่วๆไป ด้วยรสชาติที่ขมลึก และกลมกล่อม พร้อมด้วยหนังวัว ที่กรุบๆหนึบๆ ทำให้ถูกอกถูกใจของคนเถ่าคนแก่เป็นอย่างมาก หากได้ทานกับข้าวสวยร้อนๆบอกได้คำเดียว แซบอีหลี

วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2558

ร้านอาหารอีสาน ซุบหน่อไม้



ร้านอาหารอีสาน "ซุบหน่อไม้" หนึ่งในเมนูของ ร้านอาหาร อีสานพิ้นบ้านที่มีทั่วๆไป หรือคนไทยจะเรียกกันทั่วไปว่ายำหน่อไม้ก็ได้ เพราะหน้าตามันละม้ายคล้ายคลึงกัน โดยแต่ละสูตรของทางร้านก็แตกต่างกันออกไป แต่ที่ขาดไม่ได้คือปลาร้า และใบย่านาง

การที่จะทำซุบหน่อไม้ให้ได้ต้นตำหรับรสชาติอีสานขนานแท้นั้น เคล็ดลับก็คือ ต้องนำหน่อไม่ไปเผาแล้วนำไปต้ม เติมเกลือเล็กน้อย จะช่วยดึงรสชาติของหน่อไม้ให้มีความหอมและทำให้ซุบหน่อไม้มีรสชาติที่เป็นอีสานมากกว่าเดิม  จากนั้นนำใบย่างนางที่เตรียมไว้ไปโขลกคั้นเอาแต่น้ำ จากนั้นก็นำใบย่านางไปเคี่ยวให้เหลือน้ำพอคลุกคลิก แล้วนำหน่อไม้ไปใส่ในหม้อ เติมน้ำปลาร้า น้าปลา และเกลือ ปรุงรสด้วย น้ำมะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว ผักชี ใบสะระแหน่ หอมแดง คนให้เข้ากันพร้อมเสริฟ รับประทานคู่กับผักสดต่างๆ

ร้านอาหารอีสาน ซุบหน่อไม้นั้น เหมาะรับประทานกับข้าวเหนียวเป็นที่สุด เป็นอาหารพื้นบ้านที่ชาวอีสานรู้จักกันดี และหน่อไม้ก็เป็นจำพวกผักพื้นบ้าน ที่ชาวบ้านมักจะนำมาประยุกต์ดัดแปลงให้เป็นเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจมากมายอีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

ร้านอาหารอีสาน ก้อยไข่มดแดง



ร้านอาหารอีสาน เมนูอาหารอีสานเมนูนี้ บอกได้เลยว่าเป็นสุดยอดของสุดยอด เป็นอาหารของชนชั้นสูง เพราะวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารนั้นอยู่บนต้นไม้นั้นเอง เมนูนี้คือ ก้อยไข่มดแดง เมนูอาหารอีสานที่ขึ้นชื่อลือชาอีก 1 เมนู ไข่มดแดงนั้น มีรสชาติที่มันๆสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู

วัตถุดิบและเครื่องปรุงมี ไข่มดแดง, หอมแดง, ผักชี, ต้นหอม, พริกบ่น, ข้าวคั่ว, น้ำมะนาว,และน้ำปลา ขั้นตอนแรกนำไข่มดแดงไปล้างน้ำให้สะอาด จะนำไปลวกน้ำร้อนหรือจะเอาสดๆก็ได้ มาถึงวิธีการปรุงรสกันบ้าง นำไข่มดแดงมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง เติมตามใจชอบ แต่รสชาติต้องเผ็ดเปรี้ยวนำ เมื่อได้รสชาติแล้ว ให้เติมผักและข้าวคั่วลงไป คลุกเคล้าอีกรอบ ชิมรสชาติแล้วพร้อมเสริฟ โรยหน้าด้วยใบสาระแหน่,ใบมะกรูดซอย รับประทานกับผักเคียง เช่นผักกาด, โหระพา, แตงกวา, มะเขือ

ร้านอาหารอีสาน  ก้อยไข่มดแดง คงเป็นเมนูที่แค่เห็นน้ำลายก็ไหลแล้ว ปัจจุบันนี้ ไข่มดแดงนั้น เริ่มจะหาทานยากได้เรื่อยๆ เพราะมีคนหากันเยอะ จึงทำให้มดแดงและปริมาณของไข่มีขนาดที่เล็กลง อีกทั้งยังมีราคาที่แพงอีกด้วย